วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หงส์แดงหืดจับบดน็อตต์เค้าน์ตี้ 4-2 ต่อเวลาพิเศษ ลีกคัพ


บอลแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 2 วันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2556
  ลิเวอร์พูล 4-2 น็อตต์ส เคาน์ตี้

สนาม : แอนฟิลด์



        เริ่มเกมมาแค่ 4 นาที ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็แผลงฤทธิ์ได้อย่างเร็วจี๋ด้วยการรับบอลจากฝั่งขวาแล้วลากแหวก แผงหลังทีมเยือนเข้าไปอัดเต็มข้อระยะ 18 หลาถูกบาร์ตอสซ์ บิอัลคอฟสกี้ปัดได้ แต่บอลยังทะลักเข้าประตูเป็นสกอร์นำ 1-0 ของเจ้าบ้าน

         อย่างไรก็ดี ถึงนาทีที่ 8 น็อตต์ เคาน์ตี้ได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา และเป็นจอสส์ ลาบาดี้ที่วิ่งเข้าตะบันสุดแรง ทำเอาซิมง มินโญเลต์ต้องออกแรงปัดให้พ้นกรอบ

         จากนั้นอีกสองนาที ซิสโซโก้ที่ปะทะกับจามาล แคมป์เบลล์ ไรซ์ในจังหวะก่อนหน้านี้ไม่นานจนบาดเจ็บก็ฝืนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเดินออกไปให้ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ลงเล่นแทนพร้อมขยับตำแหน่งให้อังเดร วิสด็อมโยกมาเล่นแบ็คซ้าย

         ล่วงมาถึงนาทีที่ 19 เจ้าบ้านได้ลูกฟาวล์ริมเขตโทษด้านขวา เจอร์ราร์ดจึงตักเข้าเขตโทษโดยมีแอกเกอร์โขกสะบัดจากสิบหลาส่งบอลชนเสาไกล อย่างน่าเสียดาย

         นาทีต่อมา ลิเวอร์พูลได้ฟาวล์อีกหน และเล่นเร็วจนเกล็น จอห์นสันหลุดเข้าเข่นในเขตโทษด้ายซ้าย แต่แมนนี่ สมิธพุ่งเข้ามาบล็อคเปลี่ยนทิศของบอลได้ทันท่วงที


         อย่างไรก็ดี ถึงนาทีที่ 29 เจอร์ราร์ดก็แทงบอลเรียดให้สเตอร์ริดจ์หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วกองหน้า ผิวสีจัดแจงสับไกจาก 12 หลาผ่านบิอัลคอฟสกี้ได้สำเร็จเพิ่มสกอร์ให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

         เกมของหงส์แดงยังเหนือกว่า และจากลูกเตะมุมด้านขวาในนาทีที่ 35 ซึ่งเจอร์ราร์ดโยนเข้าไป แอ็กเกอร์ก็โถมโหม่งระยะ 12 หลาโดนบิอัลคอฟสกี้ปัดพ้นสามเหลี่ยมเสาแรกได้เยี่ยม

         เข้าสู่นาทีที่ 41 หงส์แดงต่อเกมขึ้นทางซ้ายไล่ตั้งแต่สเตอร์ริดจ์ไหลให้สเตอร์ลิ่งจ่ายเข้าเขต โทษอีกทีโดยมีเจอร์ราร์ดสอดเข้ากดมุมแคบ ส่งบอลชนเสาอีกหน จบครึ่งแรกเจ้าบ้านออกนำไปก่อน 2-0

         ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนผู้เล่น และถึงนาทีที่ 53 แคมป์เบลล์ ไรซ์ก็ได้ใบเหลืองเป็นรายแรกข้อหาปรี่เข้ารวบสเตอร์ลิ่ง

         ผ่านมาถึงนาทีที่ 58 สเตอร์ริดจ์ได้ลูกผ่านหลุดเข้าเขตโทษแล้วโดนแกรี่ ลิดเดิ้ลดักล้ม แต่ผู้ตัดสินมองว่าเบาเกินกว่าที่จะเป็นลูกโทษ


         ในที่สุดนาทีที่ 64 ลิเวอร์พูลก็เสียท่าจากลูกตั้งเตะอีกจนได้เมื่อน็อตต์ส เคาน์ตี้ได้ลูกฟรีคิกแถวกลางสนาม และวางยาวเข้าไปก่อนที่โยอัน อาร์กิ้นจะโขกลูกโหม่งชงของสมิธจากหกหลาเสียบใต้คานเข้าไปให้ทีมเยือนไล่มา 1-2

         และก่อนเขี่ยบอลเล่นกันใหม่ เจ้าบ้านก็ต้องเปลี่ยนจอร์แดน เฮนเดอร์สันลงไปแทน โจ อัลเลน ที่เริ่มเจ็บจนต้องเดินออก

         กระทั่งนาทีที่ 69 เจอร์ราร์ดก็ผ่านบอลยาวจากริมกราบขวาไปหน้าประตูโดยมีโคโล่ ตูเร่เข้าฮอสหกหลาชนเสาแรกเหลือเชื่อก่อนที่ทีมเยือนจะเปลี่ยนเคอร์ติส ธอมป์สันลงไปแทนแคมป์เบลล์ ไรซ์

         ขยับมาในนาทีที่ 72 หงส์แดงตัดสินใจส่งฟิลิปเป้ คูตินโญ่ลงไปเสริมประสิทธิภาพของเกมรุกแทนอัลเบร์โต้ และอีกห้านาทีต่อมา  ทีมรองบ่อนก็ถอดมาร์ค ฟอเธอริงตันออกให้อังเดร บูคูด์ลงบู๊แทน
 

         นาทีที่ 84 แฟนบอลทีมเยือนได้เฮลั่นสนาม เมื่อ อดัม คูมบ์ส ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมา เติมขึ้นมายิงให้ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ตีเสมอเป็น 2-2

         ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล โหมบุกหนักและมีโอกาสจาก ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ ครบ 90 นาที เสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

         นาทีที่ 95 หงส์แดง ได้จังหวะทำเกมบุกขึ้นมา ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ได้บอลหลุดไปทางซ้ายก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวา แต่เบาไป บาร์ตอสซ์ บิอัลคอฟสกี้ ล้มตัวรับไว้ได้ไม่ยาก
 

         นาทีที่ 100 สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อ โคโล่ ตูเร่ ดันมาได้รับบาดเจ็บ แถมเปลี่ยนตัวครบแล้ว ทำให้ต้องเล่นต่อด้วยผู้เล่น 10 คน ในช่วงเวลาที่เหลือ
 

         นาทีที่ 105 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำเกมขึ้นมาก่อนจ่ายบอลให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดเข้าไปยิงยัดที่เสาแรก บาร์ตอสซ์ บิอัลคอฟสกี้ ล้มตัวปัดไว้ได้แต่ด้วยความแรงทำให้บอลกลิ้งเข้าประตูไป หงส์แดง ตีปีกฉีกนำ 3-2 อีกครั้ง พร้อมกับหมดครึ่งเวลาแรกในช่วงต่อเวลาพิเศษ

         นาทีที่ 110 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จ่ายบอลเข้ากลางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลากบอลจากครึ่งสนามก่อนแตะบอลลอดขา แกรี่  ลิดเดิ้ล เข้าไปเลือกมุมยิงง่ายๆ หงส์แดง หนีห่าง 4-2

         ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นครองเกมไว้ได้หมด จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 ผ่านเข้าไปเล่นแคปปิตอล วัน คัพรอบสาม ได้สำเร็จ

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม          ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , โคโล่ ตูเร่ , อังเดร วิสด็อม ,อาลี ซิสโซโก้ (ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ น.10) , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , โจ อัลเลน (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.64)  , หลุยส์ อัลเบร์โต้ (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.72)  , จอร์แดน ไอบี้ , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

         น็อตต์ส เคาน์ตี้ : บาร์ตอสซ์ บิอัลคอฟสกี้ , มุสตาฟา ดุมบูย่า , แมนนี่ สมิธ , แกรี่  ลิดเดิ้ล , เอ็นด้า สตีเว่นส์ , จามาล แคมป์เบลล์ ไรซ์ (เคอร์ติส ธอมป์สัน น.70)  , จอสส์ ลาบาดี้ , มาร์ค ฟอเธอริงแฮม (อังเดร บูคูด์ น.77) , เดวิด เบลล์ (อดัม คูมบ์ส น.82) ,คัลลั่ม แม็คเกรเกอร์ , โยอัน อาร์กิ้น

         ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์


ข้อมูล:sanook

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หงส์แดงเก็บ 6 แต้มใน 2 นัด ดีสุดในรอบ 5 ปี หลังบุกอัดวิลล่า 0-1+ คลิป


Aston Villa v Liverpool - Premier League 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556 
สนาม วิลล่าพาร์ค  
“สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลล่า - หงส์แดงลิเวอร์พูล 


         เริ่มเกมส์ ทีมเยือนอย่าง “หงส์แดง” เป็นฝ่ายตั้งหลักครองบอล เดินเกมส์รุกหาช่องบุกใส่เจ้าบ้านได้ก่อน

Aston Villa v Liverpool - Premier League 

แต่ยังหาช่องเจาะแนวรับวิลล่ายังไม่ได้ นาที 15 ลิเวอร์พูล ได้ทักทายด้วยการส่องไกลของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์แซมบ้า ที่รับบอลที่ เอนริเก้ ตอกส้นมาให้ก่อนปั่นด้วยขวา แต่บอลโค้งไม่พอหลุดกรอบออกไปเยอะ นาที 21 ลิเวอร์พูลทะยานออกนำจนได้ จากจังหวะที่เอนริเก้เปิดบอลจากซ้ายเข้ากลาง คูตินโญ่ ข้ามบอลหลอกให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โชว์สเต็บอย่างเหนือ เกี่ยวบอลลากหลบกองหลัง และแบร๊ด กูซาน เข้าไปดีดเสยตาข่ายให้ หงส์แดง ตีปีกออกนำ 0-1 โดยเป็นประตูที่ 2 ในรอบ 2 นัดของหัวหอกสิงโตคำรามรายนี้ อีกด้วย


Aston Villa v Liverpool - Premier League 

ครึ่งชั่วโมงของ เกมส์ผ่านไปก็ยังคงเป็น ทีมเยือนที่ทรงบอลดีกว่า อย่างเห็นได้ชัดยิ่งได้ประตูออกนำยิ่งทำให้ยิ่งเล่นสบายไม่ต้องเร่งเกมส์มาก นักและมาเน้นครองบอลตามสไตส์ที่ตัวเองถนัดได้มากขึ้น นาที 41 คริสติย็อง เบนเตเก้ หัวหอกตัวอันตรายของเจ้าบ้าน เก็บบอลให้กรอบเขตโทษได้ก่อนม้วนหนี โคโล่ ตูเร่ ที่ตามมาประกบก่อนปั่นเน้นๆ แต่ มินโญเลต์ ยังผวาไปปัดได้ออกไปได้ ช่วงท้ายเกมส์ เจ้าบ้านวิลล่า เป็นฝ่ายเดินเครื่องบุกอย่างหนักบ้าง แต่ก็เจาะไม่เข้าจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมาขึ้นนำวิลล่า 0-1

        
         เริ่มครึ่งหลัง เป็นวิลล่าที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังได้บุกกดดันก่อน และมาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลากลางประตู.
Aston Villa v Liverpool - Premier League  

ลีอาโดร บาคูน่า รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกไปชนกำแพงอย่างจัง ครบ 1 ชั่วโมงเต็ม วิลล่า ยังบุกได้เยอะกว่า นาที 68 แบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหงส์แดง ส่งแข้งใหม่อย่าง อาลี ซิสโซโก้ ลงสนามแทน ยาโก้ อัสปาส  นาที 70 เบนเตเก้ ขึ้นโขกลูกเตะมุมหลุดกรอบออกไป นาที 74 ยังเป็นวิลล่าที่บุกอย่างหนัก แล้วเป็น ตูเร่ ที่สกัดบอลมาเข้าทาง อักบอนลาฮอร์ ได้ยิงสวนทันทีแต่บอลไม่ตรงกรอบ


Aston Villa v Liverpool - Premier League 

นาที 78 เกมส์เป็นวันเวย์ของ เจ้าบ้าน และมาได้ลุ้นจากจังหวะยิงไกลของ อเล็กซ์ซานดร้า โทเนฟ แต่ มินโญเลต์ ล้มตัวรับไว้ได้ นาที 85 ซิมง มินโญเลต์ นายทวารคนใหม่ โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบชนิดแฟนบอลลืมเรน่าไปได้เลย เมื่อโชว์ซุปเปอร์เซฟ ในจังหวะที่ เบนเตเก้ หลุดเข้าไปซัลโวด้วยขวาจัง            ๆ แต่จอมหนึบหงส์แดงพุ่งสุดเหยียดไปปัดบอลทิ้งด้วยมือเดียวอย่างเหลือเชื่อ เวลาที่เหลือ วิลล่า พยายามทวงคืนแต่ก็ทำไม่ได้


              จบเกมส์ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลล่าพ่ายเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันหลังโดน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกมายัดเยียดความปราชัยแบบหืดจับถึงรัง จากประตูชัยในช่วงต้นเกมส์ของ สเตอร์ริดจ์  ผนึกกับฟอร์มของเซฟแบบสุดยอดของ  มินโญเลต์ นายทวารคนใหม่         ทำให้ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ท 2 นัดเก็บ 6 คะแนนเต็มได้เป็นครั้งแรก ในรอบ 5 ปี



รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แอสตัน วิลล่า : แบร๊ด กูซาน, แม็ทธิว โลว์ตัน, รอน ฟลาร์, โจเรส โอโคเร่, อันโตนิโอ ลูน่า, แอชลี่ย์ เวสต์วูด, ฟาเบียน เดลฟ์, ลีอาโดร บาคูน่า, อันเดรียส ไวมันน์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, คริสติย็อง เบนเตเก้
ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์, เกล็น จอห์นสัน, โคโล่ ตูเร่, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ยาโก้ อัสปาส

ข้อมูล:mthai

หางาน กรุงเทพมหานคร

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"หงส์แดง"ประเดิมสวย เปิดบ้านเฉือนสโต๊ค 1-0 นัดเปิดฤดูกาล 2013-2014+คลิป


ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
(นัดเปิดฤดูกาล 2013-2014)
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2556

ลิเวอร์พูล 1-0 สโต๊ค

สนาม : แอนฟิลด์


        นัดเปิดสนาม ลิเวอร์พูล เกมนี้สองกองหลัง ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และ มาร์ติน สเคอร์เทล เจ็บเข่า ต้องรอทดสอบความฟิตทั้งคู่ ส่วนแดนหน้าไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ ที่โดนโทษแบนจากฤดูกาลที่แล้ว 6 นัดแรกฤดูกาลนี้ ด้าน เดอะ พ็อตเตอร์ส คุมทัพโดยกุนซือคนใหม่ มาร์ค ฮิวจ์ส าจะยึดตัวหลักจากฤดูกาลที่แล้วเป็นส่วนใหญ่ คาเมรอน เจอโรม กองหน้าตัวสำรอง ต้องลุ้นว่าจะมีชื่อข้างสนามหรือไม่ หลังโดน เอฟเอ สั่งปรับเงินข้อหาพัวพันกับการพนัน

        นาทีที่ 8  สโต๊คมีโอกาสก่อน จากจังหวะชุลมุนที่หน้าประตูลิเวอร์พูล บอลหลุดมาเข้าทาง  โรเบิร์ต ฮูธ กดด้วยขวาเต็มข้อบอลผ่านมือ ซิมง มินโญเลต์ แต่ไปโดนคาน กระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย

      
       นาทีที่ 11 ลิเวอร์พูลเกือบได้เฮ จากจังหวะฟรีคิก เจอร์ราร์ด เปิดเข้ามา สเตอร์ริดจ์ โขกเช็ดเข้าประตูไป แต่กรรมการยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน


       นาทีที่ 37 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำเมื่อ คูตินโญ่ ได้บอลตรงกลางแล้วจ่ายให้ สเตอร์ริดจ์ สับยิงด้วยซ้ายบอลลอดขาโรเบิร์ต ฮูธ พุ่งผ่านมือเบโกวิชเสียบเสาสองอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0

ครึ่งหลัง


       
       นาทีที่ 53 ลิเวอร์พลาดได้ประตูหลังจาก คูตินโญ่ ได้บอลทางซ้ายแล้วจ่ายเข้ากลางให้ สเตอร์ริดจ์ ยิงแต่ลื่นบอลหลุดมาเข้าทาง เฮนเดอร์สัน ยิงด้วยซ้ายแต่ เบโกวิช ก็ยังปัดเอาไว้ได้อีกครั้ง 
นาทีที่ 78 ลิเวอร์พูลได้ลูกฟรีคิก สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่ปั่นเข้ามาแต่ถูก เบโกวิช ปัดเอาไว้ได้อย่างเหนือชั้น ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
     

        นาทีที่ 89 สโต๊คมาได้ลูกจุดโทษ โจนาธาน วอลเตอร์ส รับหน้าที่สังหารแต่ทว่า ซิมง มินโญเลต์ ปัดเอาไว้ได้ก่อนบอลจะไปเข้าทาง เควิน โจนส์ วิ่งเข้ามาซ้ำแต่ มินโญเลต์ ก็ยังเซฟเอาไว้ได้อีก

จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมลิเวอร์พูลเปิดบ้านเฉือนชนะสโต๊ค ซิตี้ ไปแบบหืดจับ 1 - 0
 
 
 
รายชื่อผู้เล่น11คนแรกทั้งสองทีม
        ลิเวอร์พูล (4:3:3) : ซิ มง มินโญเลต์, เกล็น จอห์นสัน, โคโล่ ตูเร่, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ยาโก้ อัสปาส, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 

        สโต๊ค (4:3:3) : อัส เมียร์ เบโกวิช, เจฟฟ์ คาเมรอน, ไรอัน ชอว์ครอส, โรเบิร์ต ฮูธ, เอริค ปีเตอร์ส, เกล็น วีแลน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, วิลสัน ปาลาซิออส, โจนาธาน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์, แม็ทธิว เอเธอริงตัน
 
 
 
ข้อมูล:sanook