วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หงส์แดง ฝืดทำได้แค่เสมอฮาร์ทส์ 1-1 ยังเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1


ฟุตบอล ยูโรปา ลีก
รอบเพลย์ออฟ นัดสอง
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2555
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1   -  1 ฮาร์ทส์ (สก็อตแลนด์)

 (รวม 2 นัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)


สนาม : แอนฟิลด์

        "หงส์แดง" บุกชนะนัดแรก 1-0 เกมนี้จัดเต็มเกินคาด ส่งทั้งเจอร์ราร์ดและซัวเรซเป็นตัวจริงทั้งคู่ พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ส่ง อดัม มอร์แกน ดาวรุ่งจากชุดเยาวชนลงเป็นตัวจริง และขยับดาวนิ่งลงไปเล่นแบ็กซ้ายอีกด้วย


        เล่นไปได้ 15 นาที หงส์ได้ลุ้นจะแจ้ง ดาวนิ่งโยนจากซ้ายมาหน้าประตู เจอร์ราร์ดโหม่งตั้งกลับมาให้ซัวเรซขวิดอีกทอด แต่กองหลังฮาร์ทยืนหน้าปากประตูพอดี เคลียร์ทิ้งออกมาได้ นาที 29 เจอร์ราร์ดลุยเข้าไปทางฝั่งซ้ายเขตโทษคนเดียว ก่อนซัดมุมแคบด้วยซ้าย ติดแขนแม็คโดนัลด์กระดอนออกมา

        มาถึงนาที 34 กองเชียร์เจ้าถิ่นเฮเก้อ จากจังหวะที่ซัวเรซลุยมาทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนโยนมาเสาสองให้มอร์แกนที่ยืนโล่งๆ แปเนียนตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ เนื่องจากไลน์แมนยกธงว่าลูกออกหลังไปแล้ว ซึ่งจากภาพช้าพบว่า เป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว จบครึ้งแรกเสมอกันอยู่ 0-0



        ครึ่งหลัง รูปเกมของ หงส์แดง ดูดีกว่า แต่ก็ยังเจาะเอาประตูแรกไม่ได้ จนถึงนาทีที่ 61 ต้องส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกดาวรุ่งลงสนามแทน อดัม มอร์แกน

        นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อ เจอร์ราร์ด จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแตะหลบนายทวาร แม็คโดนัลด์ ไปหามุมแคบ แล้วพยายามยิงแต่ไม่ลอดขาตัวคุมเส้น แม็คโกแวน ทั้งที่มี สเตอร์ลิง รออยู่กลางประตู


        โอกาสของเจ้าถิ่นเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 72 หลุยส์ ซัวเรซ ผ่านจากด้านขวาไปติดบล็อค เข้าทาง เจอร์ราร์ด วิ่งสอดขึ้นมาแปมุมแคบไปติดเท้า แม็คโดนัลด์ อีก


        เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ผลเสมอแต่แล้วแฟนฮาร์ทส์ได้เฮสนั่นแอนฟิลด์ นาทีที่ 84 จากจังหวะที่ เดวิด เทมเพิลตัน รับบอลจากลูกแตะมุมก่อนพลิกบอลเข้าเท้าขวาซัดไกลระยะประมาณ 23 หลาหน้ากรอบเขตโทษหงส์แดง บอลพุ่งตรงเข้าหา เรน่า นายด่านเจ้าถิ่นและดูเหมือนจะรับไว้สบาย แต่ เรน่า กลับทำบอลหลุดมือเข้าประตูไปทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 




        นาทีที่ 88 หงส์แดง โหมบุกอย่างหนักและมาประสบความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะตัวของ ซัวเรซ ที่กระชากเดี่ยวเกือบครึ่งสนามตัดออกไปทางฝั่งซ้ายก่อนจี้เข้าไปในเขตโทษ และยิงด้วยเท้าซ้ายที่เสาแรก โดย เจมี่ แม็คโดนัลด์ นายด่านทีมเยือนปิดมุมไม่ดี บอลเข้าไปกองก้นตาข่าย หงส์แดงไล่ตีเสมอเป็น 1-1 

        ช่วงเวลาที่เหลือต่างฝ่ายต่างแลกเกมบุกกันอย่างสนุกแต่ไม่มี ประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ ฮาร์ทส์ ไป 1-1 รวม 2 นัด หงส์แดง ชนะประตูรวม 2-1 ผ่านเข้ารอบสำเร็จ




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ลิเวอร์พูล
: เปเป้ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, จอนโจ้ เชลวี่ย์ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อดัม มอร์แกน, หลุยส์ ซัวเรซ

        สำรอง :
แบร็ด โจนส์, เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ่ เอ็นริเก้, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เซบาสเตียน โกอาเตส, ฟาบิโอ บอรินี่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง


        ฮาร์ทส์ :
เจมี่ แม็คโดนัลด์ - ไรอัน แม็คโกแวน, แอนดี้ เว็บสเตอร์, มาริอุส ซาลิอูคาส, แดนนี่ เกรนเกอร์ - อาร์วีดาส โนวิโควาส, ดาร์เรน บาร์, เมห์ดี้ ทาอุย, คัลลั่ม ปาเตอร์สัน - เดวิด เทมเปิลตัน - จอห์น ซัตตัน

        สำรอง
: แจ็ค แฮมิลตัน, สก็อตต์ โรบินสัน, แอนดูรว์ ไดร์เวอร์, เจสัน โฮลท์, ดีแลน แม็คโกแวน, เควิน แม็คฮัตตี้, เดล คาร์ริค


        ผู้ตัดสิน : วลาดิสลาฟ เบซโบโรดอฟ (รัสเซีย)


หางาน ลำปาง

ฟุตบอล ยูโรปา ลีก
รอบเพลย์ออฟ นัดสอง
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2555
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1   -  1 ฮาร์ทส์ (สก็อตแลนด์)
(รวม 2 นัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)


สนาม : แอนฟิลด์

        "หงส์แดง" บุกชนะนัดแรก 1-0 เกมนี้จัดเต็มเกินคาด ส่งทั้งเจอร์ราร์ดและซัวเรซเป็นตัวจริงทั้งคู่ พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ส่ง อดัม มอร์แกน ดาวรุ่งจากชุดเยาวชนลงเป็นตัวจริง และขยับดาวนิ่งลงไปเล่นแบ็กซ้ายอีกด้วย

        เล่นไปได้ 15 นาที หงส์ได้ลุ้นจะแจ้ง ดาวนิ่งโยนจากซ้ายมาหน้าประตู เจอร์ราร์ดโหม่งตั้งกลับมาให้ซัวเรซขวิดอีกทอด แต่กองหลังฮาร์ทยืนหน้าปากประตูพอดี เคลียร์ทิ้งออกมาได้ นาที 29 เจอร์ราร์ดลุยเข้าไปทางฝั่งซ้ายเขตโทษคนเดียว ก่อนซัดมุมแคบด้วยซ้าย ติดแขนแม็คโดนัลด์กระดอนออกมา


        มาถึงนาที 34 กองเชียร์เจ้าถิ่นเฮเก้อ จากจังหวะที่ซัวเรซลุยมาทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนโยนมาเสาสองให้มอร์แกนที่ยืนโล่งๆ แปเนียนตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ เนื่องจากไลน์แมนยกธงว่าลูกออกหลังไปแล้ว ซึ่งจากภาพช้าพบว่า เป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว จบครึ้งแรกเสมอกันอยู่ 0-0




        ครึ่งหลัง รูปเกมของ หงส์แดง ดูดีกว่า แต่ก็ยังเจาะเอาประตูแรกไม่ได้ จนถึงนาทีที่ 61 ต้องส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกดาวรุ่งลงสนามแทน อดัม มอร์แกน

        นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อ เจอร์ราร์ด จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแตะหลบนายทวาร แม็คโดนัลด์ ไปหามุมแคบ แล้วพยายามยิงแต่ไม่ลอดขาตัวคุมเส้น แม็คโกแวน ทั้งที่มี สเตอร์ลิง รออยู่กลางประตู
        โอกาสของเจ้าถิ่นเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 72 หลุยส์ ซัวเรซ ผ่านจากด้านขวาไปติดบล็อค เข้าทาง เจอร์ราร์ด วิ่งสอดขึ้นมาแปมุมแคบไปติดเท้า แม็คโดนัลด์ อีก
        เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ผลเสมอแต่แล้วแฟนฮาร์ทส์ได้เฮสนั่นแอ นฟิลด์ นาทีที่ 84 จากจังหวะที่ เดวิด เทมเพิลตัน รับบอลจากลูกแตะมุมก่อนพลิกบอลเข้าเท้าขวาซัดไกลระยะประมาณ 23 หลาหน้ากรอบเขตโทษหงส์แดง บอลพุ่งตรงเข้าหา เรน่า นายด่านเจ้าถิ่นและดูเหมือนจะรับไว้สบาย แต่ เรน่า กลับทำบอลหลุดมือเข้าประตูไปทีมเยือนขึ้นนำ 1-0

        นาทีที่ 88 หงส์แดง โหมบุกอย่างหนักและมาประสบความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะตัวของ ซัวเรซ ที่กระชากเดี่ยวเกือบครึ่งสนามตัดออกไปทางฝั่งซ้ายก่อนจี้เข้าไปในเขตโทษ และยิงด้วยเท้าซ้ายที่เสาแรก โดย เจมี่ แม็คโดนัลด์ นายด่านทีมเยือนปิดมุมไม่ดี บอลเข้าไปกองก้นตาข่าย หงส์แดงไล่ตีเสมอเป็น 1-1
        ช่วงเวลาที่เหลือต่างฝ่ายต่างแลกเกมบุกกันอย่างสนุกแต่ไม่มี ประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอ ฮาร์ทส์ ไป 1-1 รวม 2 นัด หงส์แดง ชนะประตูรวม 2-1 ผ่านเข้ารอบสำเร็จ



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
        ลิเวอร์พูล
: เปเป้ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, จอนโจ้ เชลวี่ย์ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อดัม มอร์แกน, หลุยส์ ซัวเรซ

        สำรอง :
แบร็ด โจนส์, เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ่ เอ็นริเก้, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เซบาสเตียน โกอาเตส, ฟาบิโอ บอรินี่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง


        ฮาร์ทส์ :
เจมี่ แม็คโดนัลด์ - ไรอัน แม็คโกแวน, แอนดี้ เว็บสเตอร์, มาริอุส ซาลิอูคาส, แดนนี่ เกรนเกอร์ - อาร์วีดาส โนวิโควาส, ดาร์เรน บาร์, เมห์ดี้ ทาอุย, คัลลั่ม ปาเตอร์สัน - เดวิด เทมเปิลตัน - จอห์น ซัตตัน

        สำรอง
: แจ็ค แฮมิลตัน, สก็อตต์ โรบินสัน, แอนดูรว์ ไดร์เวอร์, เจสัน โฮลท์, ดีแลน แม็คโกแวน, เควิน แม็คฮัตตี้, เดล คาร์ริค


        ผู้ตัดสิน : วลาดิสลาฟ เบซโบโรดอฟ (รัสเซีย)

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เจ๊าสุดมันส์ หงษ์แดงเปิดบ้านรับ แมนฯ ซิตี้ ก่อนเสมอกันไป 2-2



ลิเวอร์พูล 2-2 แมนฯซิตี้
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2555
สนาม : แอนฟิลด์
 ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์


เปิดเกมได้เพียง 4 นาทีเท่านั้น "หงส์แดง"ต้องเปลี่ยนตัวทันทีเมื่อ ลูคัส เลว่า มีอาการบาดเจ็บ จนต้องส่ง จอนโจ เชลวีย์ ลงมาเล่นแทน

นาที 18 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นประตูจากการวิ่งเข้าชาร์จหน้าปากประตูของ ฟาบิโอ บอรินี่ แต่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย นาทีถัดมา แมนฯซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำจาก คาร์ลอส เตเบซ ได้โอกาสตวัดยิงมุมแคบโดนปลายมือ เรน่า ทำให้ไปโดนเสาไกล 





นาที 33 เจ้าบ้านได้เฮดังๆ เมื่อสตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุม โด่งมาให้ มาร์ติน สเคอร์เทล วิ่งเข้าโขกเต็มๆ หัวแสกหน้า โจ ฮาร์ท เข้าไปตุงตาข่าย 1-0 จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

นาที 49 ฟาบิโอ บอรินี่ ได้บอลขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายไปให้ หลุยส์ ซัวเรซ แต่ยิงไม่ดีบอลหลุดเสาไกลออกหลังไป


นาที 63 แมนฯซิตี้ ได้ประตูตีเสมอ กองหลังลิเวอร์พูล เล่นกันผิดพลาดบริเวณหน้าประตู บอลเข้าทาง ยาย่า ตูเร่ หวดตูมเดียวจ่อๆเข้าไป ตีเสมอเจ้าบ้านเป็น 1-1


เรือใบเฮได้เพียงแค่ 2 นาที ต้องเงียบกริบเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ได้ซัดฟรีคิกบริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนจะปั่นด้วยขวาบอลเลี้ยวอ้อมกำแพงก่อนที่จะเสียบเสาเข้าไป โจ ฮาร์ท หมดปัญญาที่จะพุ่งไปป้องกัน ลิเวอร์พูลขึ้นนำแมนฯซิตี้อีกครั้ง 2-1


นาที 80 สเคอเทลทำผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย  เมื่อจ่ายบอลคืนหลังพลาด ก่อนที่จะเป็น คาร์ลอส เตเบซ วิ่งมาฉกบอลก่อนจะล็อคหลบ เรน่า ยิงเข้าไปโล่งๆ เรือใบตีเสมอหงส์แดงอีกครั้ง 2-2

นาที 82  จอนโจ เชลวีย์ ได้โอกาสยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว

ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมเปิดเกมแลกใส่กันอย่างสนุก แต่ก็ไม่สามารถทำประตูกันได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯซิตี้ 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล ระบบ : 4-3-3
ผู้ รักษาประตู : โฆเซ่ เรน่า,มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เซบาสเตียน โคอาเตส, เกล็น จอห์นสัน,สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า(จอนโจ เชลวีย์ น.5), โจ อัลเลน,ฟาบิโอ บอรินี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง

แมนฯซิตี้ ระบบ : 4-4-2
ผู้ รักษาประตู : โจ ฮาร์ท,ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี่, โคโล่ ตูเร่, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ,ไนเจล เด ยอง, ยาย่า ตูเร่, ซามีร์ นาสรี่(แจ๊ค ร็อดเวลล์ น.60), เจมส์ มิลเนอร์,มาริโอ บาโลเตลลี่(เอดิน เซโก้ น.62), คาร์ลอส เตเบซ

หางาน สมุทรสงคราม

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หงส์แดง จัดสำรองเฉือนเจ้าบ้าน ฮาร์ทส์ 1-0 ศึกยูโรปา ลีก เพลย์ออฟ นัดแรก

ฟุตบอล ยูโรปา ลีก
รอบเพลย์ออฟ นัดแรก
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2555
ฮาร์ทส์ (สกอตแลนด์) 0   -   1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)



สนาม : ไทน์คาสเซิ่ล สเตเดี้ยม

        "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่จากอังกฤษบุกเยือนฮาร์ทส์ของสก็อตแลนด์ โดยเกมนี้พักตัวหลักไว้เพียบ กองหน้าใช้ ฟาบิโอ บอรินี่ เป็นหน้าเป้า ริมเส้นวาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกวัย 17 ลากเลื้อยเช่นเดียวกับแบ็กซ้ายที่ส่ง แจ็ค โรบินสัน แข้งวัยกระทงลงบู๊ ห้องเครื่องเป็น ชาร์ลี อดัม


        เล่นไปได้ 8 นาที อดัมลากบอลมาตรงกลาง ก่อนยิงบดๆ บอลพุ่งเรียด แม็คโดนัลด์ขยับปัดทิ้งได้ อีก 3 นาที ฮาร์ทส์เกือบเฮ โนวิโควาส ได้บอลหน้าเขตโทษเยื้องฝั่งขวา ก่อนล็อกเข้าซ้ายแล้วตะบันระยะ 25 หลา เรน่าต้องออกแรงปัดทิ้งออกหลัง จากนั้น 


 
        นาที 28 สเตอร์ลิ่งลากตัดจากซ้ายเข้าใน แล้วกดด้วยขวา แม็คโดนัลด์ชกออกมาได้ อีก 5 นาที หงส์ชวดได้ จากจังหวะที่เฮนเดอร์สันครอสจากขวาเข้ากลาง บอรินี่ยืนโล่งๆ แต่ตวัดยิงวืดอย่างน่าเสียดาย

        เจ้าบ้านเกือบได้ นาที 40 จากจังหวะเปิดจากขวาเข้ากลาง บอลเข้าทางเทมเปิลตันวอลเล่ย์เต็มๆ ระยะ 15 หลาข้ามคาน ช่วงทดเจ็บหงส์น่าได้สุดๆ จากจังหวะที่ฮาร์ทส์จ่ายบอลขวางสนามพลาด เข้าทางสเตอร์ลิ่งตัดบอล ก่อนพาบอลหลุดมาพร้อมกับบอรินี่ ไม่มีกองหลังไล่ตาม สเตอร์ลิ่งใจกว้างไหลให้บอรินี่แปเน้นๆ ชนเสาสองกระดอนออกมาอย่างเหลือเชื่อ จบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์
        ครึ่งหลัง เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูจะลดความน่ากลัวลงไปกว่าเดิมอีก มีเพียงนาทีที่ 58 ที่ ชาร์ลี อดัม ลากบอลขึ้นมาถึงหน้ากรอบโทษ แล้วตัดสินใจตะบันเท้าขวาจากระยะ 22 หลาทันที แต่บอลหลุดเสาแรกออกไป

        นาทีที่ 62 หงส์แดง ตัดสินใจเน้นเกมรุกเต็มที่ ส่ง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ลงแทน แจ็ค โรบินสัน แบ็กซ้ายดาวรุ่ง และอีก 6 นาทีต่อมา ก็ต้องส่ง โจ อัลเลน กองกลางตัวใหม่ ลงแทน เจย์ สเปียริ่ง อีกคน



        ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ทีมเยือนครองบอลบุกได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งนาทีที่ 78 ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ เมื่อ มาร์ติน เคลลี่ ลุยขึ้นทางกราบขวาแล้วเปิดเข้ากลาง ฟาบิโอ บอรินี่ ชาร์จบอลไม่โดน แต่บอลไปโดนหน้าแข้ง แอนดี้ เว็บสเตอร์ กองหลังเจ้าถิ่น เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย 

        นาที่ที่ 88 ฮาร์ทส์มีโอกาสทำประตูตีเสมอ เมื่อ ไดร์เวอร์ ที่พึ่งเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองได้จังหวะยิงในกรอบเขตโทษแต่ยิงไม่ดี โฆเซ่ เรน่า รับไว้ได้สบาย 




        เวลาที่เหลือฮาร์ทส์เปิดเกมบุกเข้าใส่หงส์แดงอย่างหนักแต่ไม่  สามารถเจาะประตูคืนได้  จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ ฮาร์ทส์ 1-0 ก่อนจะกลับไปเล่นนัดสองที่ แอนฟิลด์ สัปดาห์หน้า 
 


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


        ฮาร์ทส์ :
เจมี่ แม็คโดนัลด์ - ไรอัน แม็คโกแวน, แอนดี้ เว็บสเตอร์, มาริอุส ซาลิอูคาส, แดนนี่ เกรนเกอร์ - คัลลัม พาเตอร์สัน, ดาร์เรน บาร์, เมห์ดี้ เทาอูล, อาร์วีดาส โนวิโควาส - เดวิด เทมเปิลตัน - จอห์น ซัตตัน

        สำรอง :
ปีเตอร์ เอ็นเคิ่ลมัน, สก็อตต์ โรบินสัน, แอนดรูว์ ไดรเวอร์, กอร์ดอน สมิธ, ดีแลน แม็คโกแวน, เควิน แม็คฮัตที, เดล คาร์ริค


        ลิเวอร์พูล :
เปเป้ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, แจ็ค โรบินสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ชาร์ลี อดัม, เจย์ สเพียริ่ง - จอนโจ้ เชลวี่ย์, ฟาบิโอ บอรินี่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

        สำรอง :
แบร็ด โจนส์, เซบาสเตียน โกอาเตส, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน, จอห์น ฟลานาแกน


        ผู้ตัดสิน : ฟลอเรียน เมเยอร์ (เยอรมัน)

ประกาศรับสมัครงาน 

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

"เปิดไม่สวย" นัดเปิดฤดูกาล หงส์แดงบุกรังเวสต์บรอมฯโดนสอยดับ 3-0


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เวสต์บรอมวิชฯ 3 - 0 ลิเวอร์พูล
 


วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2555
สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์

ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

              ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยกพลบุกไปเยือน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน โดนเกมนี้เจ้าถิ่นวาง ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ และ เชน ลอง เป็น 2 ประสานในแดนหน้าส่วนลิเวอร์พูล ส่ง โจ อัลเล่น นักเตะใหม่ลงประเดิมสนามในทันที โดยมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นจอมทัพ ขณะที่คู่หัวหอกเป็น หลุยส์ ซัวเรซ จับคู่กับ ฟาบิโอ บอรินี่เริ่มเกมนาทีที่ 2 เจ้าถิ่น ได้โอกาสก่อน เมื่อ เลียม ริดจ์เวลล์ แบ็กซ้ายเติมเกมสูง ก่อนหลุดเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ แล้ววบรรจงดีดด้วยซ้าย บอลลอยหลุดกรอบ ออกหลังไปแบบมีลุ้น
นาทีที่ 8 ลิเวอร์พูล เกือบเสียประตู เมื่อ ลูคัส เลว่าโดน เชน เชน ลอง ฉกบอลไปได้ ก่อนกระดกด้วยขวาแต่บอลข้ามคานออกหลังไป


ถัดมานาทีเดียว "หงส์แดง" ได้ลุ้นเป็นครั้งแรก หลุยส์ ซัวเรซ โยกหลบแนวรับของเจ้าบ้าน ก่อนกดด้วยขวาเต็มหลังเท้า แต่ เบน ฟอสเตอร์ ไม่พลาด พุ่งปัดออกไปได้หวุดหวิด
นาที 25 หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่คราวนี้ดาวยิงอุรุกวัย ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งหลุดเสาแรกออกหลังไป
นาที 29 เวสต์บรอมวิช ได้ลุ้นบ้าง เชน ลอง โยนจากริมเส้นมาให้ โยนัล โอลส์สัน เซ็นเตอร์ร่างยักษ์ที่ดันขึ้นสูงมาโขกเต็มศรีษะ แต่บอลเหินโด่งออกหลังไป
ถัดมาอีกนาทีเดียว ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทอง เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ลากบอลไปถึงเส้นหลัง ก่อนเปิดมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ ขึ้นโขกแบบเหน่งๆ คนเดียว แต่ดาวยิง"หงส์แดง" กลับโหม่งบอลข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ถึงนาที 43 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่น เมื่อได้ลูกเตะมุม และบอกกระดอนมาเข้าทาง โซลตัน เกร่า พักอกหนึ่งจังหวะ ก่อนเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวา บอลพุ่งลอยเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสุดสวย พร้อมกับส่งให้เจ้าบ้าน ขึ้นนำก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล โหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก แต่นาที 58 โดน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สวนกลับเร็ว
 และมาเสียจุดโทษ จากจังกวะที่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ไปกระแทก เชน ลอง ล้มในเขตโทษ และ ฟิล ดาวด์ ควักใบเหลือง ที่สองให้ แอ็กเกอร์ เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามแต่ เชน ลอง กลับยิงจุดโทษเบาเป็นปุยนุ่น ทำให้ โฆเซ่ เรน่า ล้มตัวรับไว้ได้แบบสบายๆ ทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 0-1 เหมือนเดิม


จากนั้นนาที 62 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนทมาได้จุดโทษเป็นครั้งที่ 2 จากจังหวะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล ออกบอลช้าเลยโดน เชน ลอง ชกบอลตัดหน้า และ สเคอร์เทล ไปสะกิดขาหลัง เชน ลอง ล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที


และคราวนี้ ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เจ้าถิ่น นำห่างเป็น 2-0
นาที 67 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูอีกครั้ง โจ อัลเล่น เตะมุมมาที่ปากประตู เบน ฟอสเตอร์ นายทวารเจ้าบ้านรับบอลหลุดมือ บอลตกมาเข้าทางปืน หลุยส์ ซัวเรซ ยิงระยะไม่กี่หลาข้ามคานออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ
นาที 72 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน โต้กลับเร็ว โรเมลู ลูกาคู ตัวสำรองที่ยืมมาจากเชลซี พลิกหลบแนวรับของทีมหงส์แดง ก่อนหลุดไปเปิดถวายพานให้ เจมส์ มอร์ริสัน วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบหวุดหวิด 

นาที 77 กองเชียร์เจ้าถิ่นไดเฮอีกครั้ง เลียม ริดจ์เวลล์ เปิดบอลให้ โรเมลู ลูกาคู เทคตัวขึ้นโขกโล่งไม่เหลือซาก เวสต์บรอมวิช หนีห่าง ลิเวอร์พูล 3-0
จบ 90 นาที เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 3-0 ประเดิมสามแต้มแรกได้อย่างสวยงาม ส่วนลิเวอร์พูล ยังไม่ชนะในเกมแรกของฤดูกาล เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันเข้าให้แล้ว
----------------------------------------------------------
รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีมในเกมนี้

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน : เบน ฟอสเตอร์ - สตีเว่น รีด, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนัล โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์ - ยัสซีน เอล กานาสซี่, ยุสซุฟ มูลุมบู, เจมส์ มอร์ริสัน, โซลตัน เกร่า - ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้, เชน ลอง

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เกล็น จอห์นสัน - โจ อัลเล่น, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส เลว่า ,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง- หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาบิโอ บอรินี่

สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ประจำวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2555
- อาร์เซน่อล เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0
- ฟูแล่ม ชนะ นอริช ซิตี้ 5-0
- ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส แพ้ สวอนซี 0-5
- เร้ดดิ้ง เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 1-1
- เวสต์บรอมวิช ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0


วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลูคัส เลว่า ชมน้องใหม่เจ๋งจริง


ลูคัส เลว่า กองกลางชาวบราซิลของ ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า รู้สึกประทับใจกับเทคนิคและทักษะในการควบคุมบอลของ โจ อัลเลน มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีมคนใหม่ในถิ่น แอนฟิลด์ เป็นอย่างมาก หลังเพิ่งตัดสินใจย้ายมาจาก สวอนซี ซิตี้ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ราว 750 ล้านบาท) เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา


         ลูคัส วัย 25 ปี พูดถึง อัลเลน ในระหว่างอยู่ที่สนามซ้อม เมลวู้ด ของทัพ "หงส์แดง" ว่า "เขามาร่วมซ้อมกับพวกเรา และพวกเราก็สามารถเห็นได้ว่าเขาเป็นนักเตะที่มีศักยภาพฝีเท้าดีแค่ไหน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะสามารถกลายเป็นนักเตะตัวหลักสำหรับเราได้ในการ เล่นระหว่างฤดูกาล และมันก็เป็นอีก 1 นักเตะที่เพิ่มเข้ามา และสู้เพื่อตำแหน่งในทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ สำหรับสโมสร"


         "พวก เราต้องการนักเตะมากกว่า 11 คนเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ เขามีฤดูกาลที่ดีเมื่อปีก่อน และเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันโอลิมปิกด้วยเช่นกัน เขามีความมั่นใจ และเขาก็มีประสบการณ์ ดังนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะทำผลงานได้ดีกับพวกเรา"



         ขณะ เดียวกัน ลูคัส เชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งได้เปรียบสำหรับ "เร้ด แมชีน" ที่ได้เริ่มฤดูกาลก่อนทีมอื่น เนื่องจากต้องลงเตะในรอบคัดเลือกของศึก ยูโรปา ลีก 2 นัด โดยเอาชนะ โกเมล คู่แข่งจากเบลารุส ไปได้แล้ว พร้อมมั่นใจว่าตอนนี้ทุกคนพร้อมที่จะประเดิมสนามนัดแรกในลีกพบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคมนี้แล้ว


          "มัน เป็นเรื่องสำคัญอยู่เสมอกับการได้เล่นในเกมต้องการผลการแข่งขัน และพวกเราก็มีโอกาสที่จะได้เล่น 2 เกมก่อนฤดูกาลใหม่ในพรีเมียร์ลีก จะเริ่มต้นขึ้น นั่นเหมือนเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้กับเรา และมั่นใจได้ว่าจะมีฤดูกาลที่ดีในพรีเมียร์ลีก พวกเรายังคงเหลือระยะเวลาอีก 1 สัปดาห์ที่จะซ้อม แต่ผมคิดว่ามันเป็นผลงานช่วงปรี-ซีซั่นที่ดีสำหรับเรา พวกเราได้ใช้เวลามากมายกับการฝึกซ้อมร่วมกับผู้จัดการทีมคนใหม่ และพวกเราก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะสามารถเริ่มต้นด้วยชัยชนะ"
หางาน กรุงเทพมหานคร

วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

"บอรินี่" ซัดเบิกร่องนำหงส์แดงดับโกเมล 3-0 ประตูรวม 4-0 เข้ารอบสามศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก


ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
รอบสาม นัดที่สอง
วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม 2555 

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 3   -   0 เอฟซี โกเมล (เบลารุส)
(รวม 2 นัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0)
สนาม : แอนฟิลด์

        หงส์แดง ชิงความได้เปรียบด้วยการบุกชนะ โกเมล มาก่อน 1-0 จากนัดแรกที่เบลารุส ทำให้กลับมาเล่นนัดสองในรัง แอนฟิลด์ กลายเป็นเกมที่ง่ายขึ้น

        เกมนี้เจ้าบ้านจัดชุดใหญ่ลงเล่น โฆเซ่ เรน่า กลับมาลงเฝ้าเสาแล้ว เช่นเดียวกับ หลุยส์ ซัวเรซ ก็คืนแดนหน้าคู่กับ ฟาบิโอ บอรินี่ ส่วนทางฝั่งทีมเยือนจากเบลารุสก็ยังขนตัวหลักลงตัวจริงครบ
       
        เกมครึ่งแรก หงส์แดง เป็นฝ่ายเดินหน้าบุกเข้าทำมากกว่า นาทีที่ 11 สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผ่านบอลไปถึง ฟาบิโอ บอรินี่ หาช่องซัดจากระยะ 20 หลาข้ามคานออกไป


        นาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลมุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย เปิดไปติดบล็อคกองหลังตั้งขึ้นมาให้ ฟาบิโอ บอรินี่ ซัดด้วยเท้าขวาจากระยะ 15 หลาเบียดเสาแรกเข้าไป เป็นประตูแรกของ บอรินี่ กับทีมหงส์แดงด้วย


        พอได้ประตูนำ รูปเกมของเจ้าถิ่นยิ่งเล่นสบายขึ้นเยอะ จนกระทั่งนาทีที่ 41 ก็มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 อย่างง่ายดาย หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลไถเข้ากรอบโทษฝั่งขวาแล้วเปิดบอลผ่านผู้รักษาประตูถวายพานให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซัดง่ายๆ ไม่เหลือ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำสบาย 2-0

        ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังครองเกมบุกแบบสบายๆ นาทีที่ 52 สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เปิดบอลพุ่งแรง วลาดิเมียร์ บุชม่า ปัดไปเข้าทางปืน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซัดเรียดจากระยะ 12 หลาไปชนเสา

        2 นาทีให้หลัง หงส์แดง น่าได้ประตูอีกหน หลุยส์ ซัวเรซ กระชากบอลเข้าเขตโทษแล้วซัดไปติดเซฟปลายนิ้วของ บุชม่า หวุดหวิด

        นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา หลุยส์ ซัวเรซ ขอยิงเอง แต่ปั่นโค้งข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น

        ในที่สุด เจ้าบ้านก็มายิงฝังเป็น 3-0 ในนาทีที่ 72 เกล็น จอห์นสัน ลุยขึ้นมาเปิดทางกราบขวา บอลถูกโหม่งสกัดออกมา จอห์นสัน วิ่งเข้าหาบอลแล้วพักอกวอลเล่ย์เท้าซ้ายเสียบเสาแรกแบบสุดงาม

        นาทีที่ 86 หงส์แดง เปลี่ยน ลูคัส เลว่า ออกโดยส่ง เจย์ สเปียริ่ง ลงมาแทน

        จบเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม โกเมล 3-0 รวม 2 นัด หงส์แดง ถล่ม 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟต่อไปได้แบบสบาย


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, จอนโจ เชลวี่ย์, ลูคัส เลว่า, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาบิโอ บอรินี่

        สำรอง :
แบร๊ด โจนส์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน เคลลี่, เจย์ สเปียริ่ง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ชาร์ลี อดัม, แอนดี้ แคร์โรลล์

        โกเมล :
วลาดิเมียร์ บุชม่า, เซอร์เก โคเซก้า, ดมิทรี คลิโมวิช, อิกอร์ คุซเมน็อค, อิกอร์ โวรอนคอฟ, เซอร์เก มัตเวย์ชิค, นิโคไล คาเชฟสกี้, อิลย่า อเล็กเซวิช, โทมัส โนวัค, อเล็กซานเดอร์ อาลูโมน่า, ดมิทรี พลาโตนอฟ

        สำรอง :
อังเดร ซาโควิช, พาเวล คิริลชิค, พาเวล เยฟเซเยนโก้, อังเดร เชเรียคอฟ, เดนิส ยัคโน่, นิโคไล ลิปัตกิน, เอเซเกล พาโลเมเก้

        ผู้ตัดสิน :
เคน แฮนเซ่น (เดนมาร์ก)