วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลิเวอร์พูลฮึดบดสวอนซี 4-3 เก็บ 3 แต้ม ยึดที่ 4 ต่อไป


พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
                                             ลิเวอร์พูล 4-3 สวอนซี ซิตี
     
       ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมที่น่าสนใจที่สนาม แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล อันดับ 4 ของตาราง มี 53 แต้ม เปิดบ้านเจอกับ สวอนซี ซิตี อันดับ 12 มี 28 แต้ม เกมนี้เจ้าถิ่นส่งแนวรุกระดับพระกาฬลงครบครันทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ส่วนผู้มาเยือนใช้ วิลเฟรด โบนี เป็นแกนหลักล่าตาข่าย  

   
       เริ่มเกมแค่ 2 นาที ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จังหวะสวนกลับ ราฮีม สเตอร์ลิง แทงทะลุช่องให้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ หลุดเดี่ยวแตะหลบ มิเชล วอร์ม หนึ่งจังหวะแล้วยิงสวนเข้าไปง่ายๆ จากนั้นเป็น ลิเวอร์พูล ที่เปิดเกมบุกโจมตีอยู่ฝั่งเดียว แต่ยังไม่มีจังหวะยิงจะแจ้ง
 


    
       แต่แล้ว นาที 20 เจ้าบ้านบวกเพิ่ม 2-0 ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ลากตัดเข้าซ้ายก่อนจ่ายต่อให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซัลโวเสียบเสาสวยงาม แต่คล้อยหลังไม่นาน 

 

       
       นาที 22 สวอนซี ตีไข่แตกไล่มา 1-2 จังหวะคล้ายกัน วิลเฟรด โบนี ตัดเข้ากลางจ่ายให้ จอนโจ เชลวีย์ ซัดไกลเช็ดคานเข้าไป
   

  
       กระทั่งนาที 26 เกมกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ เมื่อ สวอนซี ตีเสมอแบบโชคช่วยเล็กน้อย 2-2 จาก โอกาสโหม่งของ วิลเฟรด โบนี แล้วบอลโดนหัวไหล่ มาร์ติน สเคอร์เทล เข้าประตูตัวเอง 

 

       
       แต่แล้ว นาที 35 คู่หู SAS แผลงฤทธิ์พา “หงส์แดง” ขึ้นนำอีกรอบ หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลมาที่เสาแรกแล้วกระดกต่อให้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ โหม่งนิ่มๆ ไม่เหลือ จากนั้นยังไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก เจ้าบ้านนำ 3-2

    
       กลับมาครึ่งหลัง แนวรับ “หงส์แดง” ยังทำงานกันผิดพลาดเมื่อเสียจุดโทษ นาที 47 หลัง มาร์ติน สเคอร์เทล ไปเหนี่ยว วิลเฟรด โบนี ล้มลงไปก่อนจะลุกมาสังหารเองช่วย “หงส์ขาว” ตีเสมอ 3-3 ขณะที่ นาที 55 สวอนซี หวิดขึ้นนำจากฟรีคิกของ โจนาธาน เดอ กุซแมน แต่บอลเฉียดเสานิดเดียว
      


       ลิเวอร์พูล บุกหนักเพื่อเอาประตูนำ แต่ยังทำไม่ได้จน นาที 74 ก็สมหวังเสียที หลุยส์ ซัวเรซ ยิงติดบล็อกจังหวะแรกแต่บอลไหลเข้าทางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาซัดติดเซฟ มิเชล วอร์ม ทว่ายังตามไปซ้ำขึ้นนำอีก 4-3 และนาที 77 “เฮนโด” เกือบทำแฮตทริกได้จากโอกาสยิงจ่อๆ แต่ มิเชล วอร์ม รับติดมือ
     
       ท้ายเกม นาที 89 สตีเวน เจอร์ราร์ด เกือบบวกประตูเพิ่มให้เจ้าบ้านจากลูกยิงไกลแต่โชคร้ายบอลพุ่งชนเสาเด้งออกมา จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือน สวอนซี ซิตี 4-3 คว้า 3 แต้มเข้าบ้านชนิดที่แฟนบอล “เดอะ ค็อป” ลุ้นกันใจหายใจคว่ำ
     
       ส่วนเกมอีกคู่ที่เตะเวลาเดียวกัน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะในบ้านแบบหวุดหวิดเช่นกันหลัง โลอิค เรมี ช่วยยิงท้ายเกม นาที 90 พา “สาลิกาดง” เชือด แอสตัน วิลลา 1-0 ทำให้ตอนนี้ทีมของ อลัน พาร์ดิว ขึ้นมาอยู่อันดับ 8 มี 40 แต้ม





     
       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
       ลิเวอร์พูล - ซิมง มิโญเลต์, กเล็น จอห์นสัน, แดเนียล แอกเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, จอห์น ฟลานาแกน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป คูตินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
       สวอนซี ซิตี - มิเชล วอร์ม, นีล เทย์เลอร์, ชิโค ฟลอเรส, แอชลีย์ วิลเลียมส์, อังเคล รันเจล, ลีออน บริตตัน, จอนโจ เชลวีย์, นาธาน ดายเออร์, เวย์น เราธ์เลดจ์, โจนาธาน เดอ กุซแมน, วิลเฟรด โบนี


ข้อมูล:sanook

หางาน

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

"แค้นต้องชำระ" ปืนใหญ่อัดกลับสอยหงส์แดงตกรอบ ศึกเอฟเอ รอบ5

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5
                     อาร์เซนอล 2-1 ลิเวอร์พูล 

เริ่มต้นเกมช่วง 10 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่า สตีเฟน เจอร์ราร์ด แทงทะลุให้ สเตอร์ริดจ์ หลุดเข้ามากดด้วยขวา ยังดีที่ ลูคัส ฟาเบียนกี ยังไม่หลับเซฟไว้ได้หวุดหวิด 

     
       ทว่าจากนั้นนาที 17 จากลูกฟรีคิก “ปืนโต” ขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ โอซิล โยนเข้าไป แนวรับทีมเยือนสกัดไม่ดี เข้าทาง อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน วิ่งมาแปตุงตายข่ายขึ้นนำ 1-0
  
       จากนั้น ลิเวอร์พูล เกือบได้จุดโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดหนี โลร็องต์ กอสซิแอลนี ไปสุดเส้นหลังและถูกสะกิดแต่พยายามฝืนเล่นต่อไป ก่อนยิงไปติดเซฟของ ฟาเบียนกี และช่วง 10 นาทีท้ายครึ่งแรก อาร์เซนอล ได้ลุ้นอีกครั้ง โอซิล ลากเข้าไปยิงติดบล็อกเข้าทาง ลูคัส โพดอลสกี ซ้ำบอลเหินคานออกไปเอง




      กลับมาครึ่งหลังนาทีเดียว โจ อัลเลน จ่ายให้ ซัวเรซ ล็อกหนี กอสซิแอลนี ก่อนยิงหักข้อไปเสาสอง แต่  ฟาเบียนกี ยังยอดเยี่ยมใช้เท้าเซฟไว้ได้หวุดหวิด แต่ไม่ถึงนาที  “ปืนโต” เด็ดขาดกว่า อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลากถึงสุดเส้นหลังตบกลับให้ โพดอลสกี เข้าฮอสจ่อๆ ไม่เหลือนำ 2-0
      

     
       เข้าสู่นาที 58 ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษ ซัวเรซ ถูก โพลดอฟสกี แซะล้มลงก่อนเป็น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ไล่มาเป็น 1-2 เกมผ่าน 70 นาที ลิเวอร์พูล บุกหนักขึ้นเรื่อยๆ เจอร์ราร์ด วางยาวให้ คูตินโญ หลุดเข้ากรอบโทษแต่จ่ายไปเข้ามือของ ฟาเบียนสกี “หงส์แดง” มีลุ้นอีกครั้ง เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิก ฟาเบียนสกี ออกมาตัดบอลพลาด แอ็กเกอร์ โขกบอลหลุดกรอบไปเอง

       ช่วงที่เหลือ ลิเวอร์พูล พยายามเปิดเกมรุกหมดหน้าตัก แต่สุดท้ายทำไม่ได้กันเอง อาร์เซนอล ที่เล่นท่ามกลางเสียงเชียร์รักษาสกอร์นำ 2-1 เอาชนะล้างตาได้ในเกมนี้ ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายรอพบกับ เอฟเวอร์ตัน ต่อไป
      



       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
       อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียนกี, คาร์ล เจนกินสัน, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี, นาโช มอนเรอัล, มิเกล อาร์เตตา, มาติเยอ ฟลามินี, เมซุต โอซิล, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ลูคัส โพดอลสกี, ยายา ซาโนโก
       ลิเวอร์พูล : แบรด โจนส์ , จอน ฟลานาแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์ , อาลี ซิสโซโก, โจ อัลเลน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟิลลิปเป คูตินโญ, ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนียล สเตอร์ริดจ์


ข้อมูล:sanook

 

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หงส์แดงเฉือนหวิวดับฟูแล่ม 3-2 เจิดซัดโทษทดเจ็บช่วยเก็บ 3 แต้ม



ศึกพรีเมียร์ อังกฤษ ฤดูกาล 2013-14

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557

ฟูแล่ม 2 : 3 ลิเวอร์พูล

สนาม : คราเวน ค็อตเทจ

ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์


เริ่มเกมมาเเค่ 1 นาที"เจ้าสัวน้อย"ฟูเเล่ม เจ้าถิ่นได้โอกาสลุ้นก่อน เมื่อดาร์เรน เบนท์ส่งบอลขึ้นไปด้านฝั่งขวา ให้กับวิลเลี่ยม ควิสต์ได้ยิงไปที่เสาเเรก ซิมง มิโญเล่ต์ต้องปัดทิ้งออกไป



นาทีที่ 8 คีแรน ริชาร์ดตวัดบอลจากด้านฝั่งซ้าย โคโล ตูเร่สกัดผิดเหลี่ยมส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ฟูแล่ม ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 1:0

นาทีที่ 17 หลุยส์ ซัวเรซลากบอลจากด้านฝั่งขวา เข้าไปยิงบอลโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 34 คีแรน ริชาร์ดสันเปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งซ้าย มาให้กับดาร์เรน เบนท์ได้โหม่งบอลหลุดเสาเเรกออกไป

นาทีที่ 39 ราฮีม สเตอร์ลิงเปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา มาให้กับดาเนียล สเตอร์ริดจ์ได้โหม่งบอลหลุดเสาสองออกไป




นาที ที่ 41 สตีเว่น เจอร์ราร์ดเปิดบอลยาวให้กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์หลุดขึ้นไปด้านฝั่งขวา ก่อนจะยิงบอลไปชนเสาสองเข้าไปตุงตาข่าย ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ ฟูแล่ม 1:1

นาทีที่ 50 หลุยส์ ซัวเรซไำด้ซัดฟรีคิกด้านฝั่งซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 60 อาลี ซิสโซโก้ไหลบอลจากด้านฝั่งขวา ให้กับหลุยส์ ซัวเรซได้ลากบอลเข้าไปยิงชนเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย




นาที ที่ 64 ชาช่า รีเธอร์เปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา มาร์ติน สเคอร์เทลสกัดบอลมาเข้าทาง คีแรน ริชาร์ดสันยิงระยะเผาขนเข้าไป ฟูแล่ม ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 2:1

นาทีที่ 72 ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ ฟู่เเล่มเป็น 2:2 จาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ลากบอลจากด้านฝั่งขวาเข้ามายิงเเฉลบจอห์นนี่ ไฮติงก้า ส่งบอลเข้าไปตุึงตาข่าย

นาทีที่ 82 หลุยส์ ซัวเรซไหลบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ไปให้กับฟิลิปเป้ คูตินโญ่ได้ยิงบอลหลุดเสาสองออกไป



ช่วง ทดเวลาบาดเจ็บ ชาช่า รีเธอร์สกัดดาเนียล สเตอร์ริดจ์ล้มลงในเขตโทษ ฟิล ดาวด์ชี้เป็นจุดโทษทันที เเละสุดท้ายสตีเว่น เจอร์ราร์ดรับหน้าที่สังหารเข้าไป ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ฟูแล่ม 3:2

จบเกม ลิเวอร์พูล บุกเฉือน ฟูแล่ม 3:2 พร้อมกับรั้งที่4 ศึกพรีเมียร์ อังกฤษ ฤดูกาล 2013-14 เมื่อผ่านนัดที่ 26



รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
ฟูแล่ม ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก
กองหลัง : ชาช่า รีเธอร์,จอห์นนี่ ไฮติงก้า,แดน เบิร์น,ยอร์น อาร์เน่ ริเซ่
กองกลาง : คีแรน ริชาร์ดสัน,วิลเลี่ยม ควิสต์,ไรอัน ทันนิคลิฟฟ์,สตีฟ ซิดเวลล์
กองหน้า : ลูอิส โฮลท์บี้,ดาร์เรน เบนท์

ลิเวอร์พูล ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : ซิมง มิโญเล่ต์
กองหลัง : จอน ฟลานาแกน,มาร์ติน สเคอร์เทล,โคโล ตูเร่,อาลี ซิสโซโก้
กองกลาง : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,สตีเว่น เจอร์ราร์ด,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ราฮีม สเตอร์ลิง
กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ,ดาเนียล สเตอร์ริดจ์


ข้อมูล:sanook
หางาน

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หงส์แดงแกร่งทั่วแ่ผ่นถล่มปืนใหญ่กระบอกแตก 5-1


ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวัน เสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 57

ลิเวอร์พูล 5-1 อาร์เซนอล

 เริ่มเกมการแข่งขัน เพียงแค่นาทีแรก กองเชียร์ "เดอะ ค็อป" ก็ได้เฮกันลั่นสนาม แอนฟิลด์ จากจังหวะฟรีคิก สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดเข้ามาและเป็น มาร์ติน สเคอร์เทล ที่โฉบเข้ามาบอลไปโดนหัวเข่าเข้าประตูไป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ออกนำ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ไก่โห่ 1-0

 
นาทีที่ 4 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลากบอลผ่านแนวรับ "ปืนใหญ่" ก่อนจะส่องไกล นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่หนีมือ วอยเชียค เชสนี่ พุ่งรับไว้ได้

นาทีที่ 7 อาร์เซน่อล เกือบได้ลุ้นประตู จากจังหวะที่ ซิมง มิโญเลต์ ผวาออกมารับบอลพลาด เกือบโดน นาโช่ มอยเรอัล ฉกไปยิง


นาที ที่ 10 กองเชียร์ "เดอะ ค็อป" ได้เฮกันลั่นอีกครั้งจากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังชาว สโลวาเกีย ที่โหม่งเข้าไป เป็นลูกที่ 2 ของตัวเอง ให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกนำ 2-0

นาทีที่ 11 แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เกือบมาบวกเพิ่มให้ เป็นลูกที่ 3 จากจังหวะหลุดเดี่ยวเข้ามาแต่ เจ้าตัวดันพลาดยิงออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที ที่ 12 "หงส์แดง" บุกอย่างต่อเนื่อง หลุยส์ ซัวเรซ วอลเล่เต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลไปโดนเสาเต็มๆกระดอนออกมา โดน โคโล่ ตูเร่ แต่บอลแรงออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทำสกอร์หนีห่างไปอีกครั้ง


นาทีที่ 17 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่ 3 จนได้ จากจังหวะ สวนกลับเร็ว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายให้หลุยส์ ซัวเรส ปาดบอลเข้ามาที่กลางประตูให้ ราฮีม สเตอร์ลิง เข้าชาร์จแปเน้นๆเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล ออกนำ อาร์เซน่อล 3-0

 

นาที ที่ 20 "เดอะ ค็อป" ได้ยิ้มกันหน้าบาน จากจังหวะ ตัดบอลได้ในแดนกลางแล้วเป็น หลุยส์ ซัวเรส ที่จ่ายทะลุช่องให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปส่องเน้นๆ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง อาร์เซน่อล 4-0

หลังจากได้ประตูนำห่าง 4-0 ลิเวอร์พูล เริ่มคุมจังหวะเกมของตัวเอง ไม่เร่งเกมเร็ว รอจังหวะสวนกลับเน้นๆอย่างเดียว ด้าน "ไอ้ปืนใหญ่" ยังต่อบอลแนวถนัดของตัวเองกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร โอกาสลุ้นประตูยังมีน้อยอยู่

ช่วงท้ายเกม อาร์เซน่อล ยังไม่มีโอกาส ได้เข้าทำเน้นๆมากเท่าที่ควร ด้านเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ก็ดูเหมือนจะผ่อนเกมลงไปเยอะ เกมสู้กันที่แดนกลางเสียเป็นส่วนใหญ่

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้งสองคนไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกมการแข่งขันในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล 4-0 อาร์เซน่อล

เริ่ม เกมในครึ่งหลัง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปทำฟาว์ล แจ็ก วิลเชียร์ อาร์เซน่อล ได้ฟรีคิก หน้ากรอบเขตโทษ ซานติ กาซอร์ล่า ซัดข้ามคานออกไป


นาที ที่ 50 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกนำอีกครั้งจากจังหวะที่ โคโล่ ตูเร่ ตักบอลข้ามแนวรับไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปยิง จังหวะแรกติดเซฟ วอยเชียค เชสนี่ กระดอนออกมา ราฮีม ซัดอีกครั้งเข้าไป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านนำ อาร์เซน่อล 5-0

นาทีที่ 60 อาร์แซน เวงเกอร์ เปลี่ยนตัวผู้เล่น ส่ง ลูคัส โพดอลสกี้ ลงไปแทน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

นาทีที่ 61 อาร์เซน่อลเปลี่ยนตัวอีกครั้ง ส่ง โทมัส โรซิคสกี้ และ คีแรน กิ๊บบ์ส ลงไปแทน เมซุต โอซิล กับ นาโช มอนเรอัล ตามลำดับ

นาทีที่ 62 หลุยส์ ซัวเรส หลอกยิงฟรีคิก แต่โดน เชสนี่ โดดปัดเอาไว้ได้หวุดหวิด

นาทีที่ 66 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ส่ง โจ อัลเลน ลงไปแทน  แดเนียล สเตอร์ริดจ์  


นาที ที่ 68 สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไปเสียบสกัด อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ล้มลงในเขตโทษ กรรมการ ไมเคิล โอลิเวอร์ ชี้เป็นจุดโทษทันที  มิเคล อาร์เตต้า รับหน้าที่สังหารไม่พลาด อาร์เซน่อล ตาม ลิเวอร์พูล มาห่างๆ 1-5

นาทีที่ 76 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนเอา จอร์ดอน ไอบ์ ลงไปแทน สตีเว่น เจอร์ราร์ด

นาทีที่ 85 "หงส์แดง" เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง ยาโก้ อัซปาส ลงไปแทน หลุยส์ ซัวเรส

ช่วง ท้ายเกมทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเพิ่มกันได้ จบเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล ไปได้ 5-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญไว้ได้สำเร็จ


ราย ชื่อ 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์, จอน ฟลานาแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, โคโล่ ตูเร่, อาลี ซิสโซโก้, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (จอร์ดอน ไอบ์ น.76), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรส (ยาโก้ อัซปาส น.85), แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (โจ อัลเลน น.66)

ตัวสำรอง : แบรด โจนส์, หลุยส์ อัลแบร์โต้, วิคเตอร์ โมเสส, มาร์ติน เคลลี่

ราย ชื่อ 11 ตัวจริง อาร์เซน่อล : วอยเชียค เชสนี่, บาการี่ ซาญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช มอนเรอัล (คีแรน กิ๊บบ์ส น.61), มิเคล อาร์เตต้า, แจ็ก วิลเชียร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เมซุต โอซิล (โทมัส โรซิคสกี้ น.61), ซานติ กาซอร์ล่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ลูคัส โพดอลสกี้ น.60)

ตัวสำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, นิคลาส เบนท์เนอร์, คาร์ล เจนกินสัน, เซอร์เก กนาบรี

ผู้ตัดสิน :  ไมเคิล โอลิเวอร์



ข้อมูล:sanook

หางาน กาญจนบุรี

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หงส์ช้ำใจ โคโล่ใส่พายแบ็กกี้ตีเสมอ 1-1เก็บ 1 แต้มกลับรัง



เวสต์บรอมวิช 1:1 ลิเวอร์พูล
สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์รส์
ถ่ายทอด : 20.30 น.
 
เปิดฉากครึ่งแรกมา 6 นาที ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนจากลูกที่ หลุยส์ ซัวเรซ มีโอกาสสับไกด้วยขวา แต่ผู้เล่น เวสต์บรอมวิช ยังสามารถเข้ามาบล็อกไว้ได้

นาที 17 ยุสซุฟ มูลุบบู วอลเลย์จากนอกกรอบเขตโทษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด สกัดบอลมาเข้าทาง คริส บรันท์ ได้ซ้ำจากในเขตโทษทางขวาบอลเหินข้ามคานออกหลัง

 
นาที 24 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1:0 จากลูกที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไหลสั้นในเขตโทษทางขวาให้ หลุยส์ ซัวเรซ ได้งัดบอลไปที่เสาสอง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ สอดเข้ามาแปจ่อๆเสียบตาข่าย

อีก 3 นาที ต่อมา ลิเวอร์พูล มาได้ฟรีคิกหน้าเส้นเขตโทษ หลุยส์ ซัวเรซ บรรจงปั่นด้วยขวาบอลโด้งเฉียดเสาออกหลังไป

นาที 33 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากบอลจากขวาตัดเข้ากลางไปยิงด้วยเท้าขวาบอลพุ่งไปติดบล็อก โยนัส โอลส์สัน แฉลบออกหลังไป

นาที 42 ยุสซุฟ มูลุบบู ไหลบอลออกขาวให้ โซลตัน เกร่า ได้ตั้งป้อมยิงบอลพุ่งหลุดเสาไกลอออหลังไป เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังนำอยู่ 1:0


ลงมาต่อครึ่งหลังนาที 53 ยุสซุฟ มูลุบบู วางบอลยาวจากทางฝั่งขวาเข้าเขตโทษไปทางเสาสอง คริส บรันท์ สอดมามตัวยิง จอน ฟลานาแกน ตามมาสกัดออกหลังไปได้จากลูกเตะมุมจังหวะต่อมา คริส บรันท์ เปิดเข้าเขตโทษ แกเร็ธ แม็คออลีย์ เบียดขึ้นโขกเต็มหัว ซิมง มิโญเล่ต์ สุดเหนียวโชว์ซุปเปอร์เซฟปัดบอลออกหลังไปได้หวุดหวิด
 
นาที 65 เวสต์บรอมวิช มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเสนเขตโทษ คริส บรันท์ บรรจงซัดเรียด ซิมง มิโญเล่ต์ ล้มตัวรับเข้าซองได้ไม่พลาด


อีก 2 นาทีต่อมา เวสต์บรอมวิช มาได้ประตูไล่ตีเสมอเป็น 1:1 จากจังหวะที่ โคโล่ ตูเร่ จ่ายบอลพลาด วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ฉกบอลได้ก่อนลากไปกดด้วยขวาบอลผ่านมือ ซิมง มิโญเล่ต์ เสียบตาข่าย
 
นาที 85 อาลี ซิสโซโก้ เปิดบอลจากทางซ้าย ผู้เล่นเวสต์บรอมวิช สกัดบอลมาเข้าทาง มาร์ติน สเคอร์เทล ได้ซ้ำจากนอกกรอบบอลติดบล็อก เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกม เวสต์บรอมวิช เปิดรังไล่เจ๊า "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล 1:1



รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : เบน ฟอสเตอร์
กองหลัง : บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คออลีย์ , โยนัส โอลส์สัน(ดิเอโก้ ลูกาโน่ น.41), เลียม ริดจ์เวลล์
กองกลาง : โซลตัน เกร่า , เคลาดิโอ ยาค็อบ , ยุสซุฟ มูลุบบู, คริส บรันท์
กองหน้า : ไซโด้ เบราฮิโน่(วิคเตอร์ อนิเชเบ้ น.64) , มาเตจ วีย์ดร้า(โดร์เรนส์ น.76)


ลิเวอร์พูล ระบบ 4-2-3-1 :
ผู้รักษาประตู : ซิมง มิโญเล่ต์
กองหลัง : จอน ฟลานาแกน(มาร์ติน เคลลี่ น.74), มาร์ติน สเคอร์เทล, โคโล่ ตูเร่ , อาลี ซิสโซโก้
กองกลาง : สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปป์ คูตินโญ่(โจ อัลเลน น.74)
กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ , แดเนียล สเตอร์ริดจ์