วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

เจอร์ราร์ด จัดให้..หวังหยิบแชมป์ให้หงส์แดง ก่อนอำลา


เจอร์ราร์ด ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีความจงรักภักดีค่อนข้างสูงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล แค่สโมสรเดียวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ออกมาประกาศจุดยืนแล้วว่าจะค้าแข้งต่อไป โดยสถานีต่อไปของชีวิตคาดว่าจะเป็นเวที เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา เพราะจะได้ไม่ต้องลำบากใจลงปะทะกับต้นสังกัดเก่า มีข่าวว่า แอลเอ กาแล๊คซี พร้อมเสนอสัญญา 18 เดือนค่าเหนื่อย 3.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 195 ล้านบาท) ต่อปี ให้กับแข้งที่จะอายุ 35 ปีเดือนพฤษภาคมนี้
      
        ดังนั้นปีสุดท้ายที่ แอนฟิลด์ เจอร์ราร์ด ย่อมอยากจะปิดฉากสวยหรูไม่อยากได้เพียงแค่สแตนดิงโอเวชันเกมอำลา ทว่าเป็นการคว้าแชมป์ทิ้งทวนต่างหาก ซึ่งเมื่อพิจารณาโอกาสและฟอร์มแล้วคงเหลือเพียงแค่ฟุตบอลถ้วย เพราะ พรีเมียร์ ลีก รั้งอันดับ 8 ตามจ่าฝูง เชลซี 17 แต้มจาก 20 นัด โดยนอกจาก เอฟเอ คัพ ถ้วย แคปิตอล วัน คัพ ก็ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว ซึ่งจะเตะแบบเหย้า-เยือนพบ เชลซี ที่ แอนฟิลด์ วันที่ 20 มกราคมนี้ตามด้วยที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่ 27 มกราคม
      
        ถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เอฟเอ คัพ รอบ 3 จะเริ่มวันจันทร์ที่ 5 มกราคมนี้ ลิเวอร์พูล จะไปเยือน เอเอฟซี วิมเบิลดัน แห่งศึก ลีก ทู ซึ่งถือเป็นแชมป์แรกที่ เจอร์ราร์ด คว้ากับ "หงส์แดง" เมื่อฤดูกาล 2000-01 ซึ่งปีนั้นได้ทริปเปิลแชมป์อีก 2 ถ้วยคือ ลีก คัพ กับ ยูฟา คัพ ซึ่งตนเองก็ได้รางวัลแข้งดาวรุ่งแห่งปีของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ไปครองด้วย
      
        ก่อนเกม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ลั่นจะคว้าแชมป์มามอบเป็นของขวัญอำลา เจอร์ราร์ด ให้ได้ "สิ่งนั้นจะเป็นเรื่องเยี่ยมมากสำหรับ เจอร์ราร์ด เพราะสมควรที่จะได้บางสิ่งแบบนั้นตอบแทนตลอดระยะเวลาหลายปีที่รับใช้ ลิเวอร์พูล แถมจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายด้วย จึงแน่นอนเราหวังจะคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในปีนี้"
      
        สำหรับถ้วย เอฟเอ คัพ มีหนึ่งในไฮไลต์ที่น่าจดจำในชีวิตของ เจอร์ราร์ด คือนัดชิงฤดูกาล 2005-06 เป็นคนยิงไกลจากระยะ 35 หลาตีเสมอ 3-3 นาที 90+1 ก่อนที่จะเอาชนะจุดโทษ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 3-1 คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสุดระทึก
      
        ย้อนไปนัดชิง เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1988 ลิเวอร์พูล เคยพลิกล็อกแพ้ วิมเบิลดัน 0-1 ต้นตำรบ "เครซี่ แก๊ง" ของแท้นำโดยนักเตะอย่าง เดนนิส ไวส์, จอห์น ฟาชานู, วินนี โจนส์, จอห์น สเกลส์ และ เดฟ บีเซนต์ อย่างไรก็ตามตอนนี้เปลี่ยนเป็น มิลตัน คีย์ส ดอน ซึ่งเป็นคนละทีมกับ เอเอฟซี วิมเบิลดัน ตอนนี้
      
        เกม พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาที่เปิด แอนฟิลด์ เสมอ เลสเตอร์ ซิตี 2-2 ทั้งที่นำห่างสุดกู่ก่อน เจอร์ราร์ด ก็ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและเป็นคนเหมาสองจุดโทษให้กับทีม อย่างไรก็ตาม เอฟเอ คัพ วันจันทร์นี้ต้องลุ้นว่า ร็อดเจอร์ส จะส่งลงเป็นตัวจริงหรือไม่
      
        เจอร์ราร์ด อยากออกสตาร์ททุกนัด แต่ด้วยวัย 34 ปีแล้วคงเป็นไปไม่ได้ โดย ร็อดเจอร์ส อาจอยากเก็บไว้ทำศึก พรีเมียรื ลีก ที่จะเยือน ซันเดอร์แลนด์ วันเสาร์ที่ 10 มกราคมนี้มากกว่า ซึ่งอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ก็ยอมรับว่าการที่ต้องเป็นตัวสำรองนั้นเป็นเรื่องทำใจลำบากจนต้องบอกลา
      
        “ผมเข้าใจว่าจะต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทุกคน และเพื่อทีม แต่เมื่อคุณคือแกนหลักรวมถึงได้ออกสตาร์ทมาอย่างยาวนาน ดังนั้น การคุยเรื่องนี้ถือว่ายากลำบากมาก แน่นอนตนเองยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการตัดสินใจเหมือนกัน ความจริงก็คือ ซัมเมอร์หน้าผมก็จะอายุ 35 ปีแล้ว โดยอยู่ที่ แอนฟิลด์ มานาน ลงซ้อมตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ดังนั้น ก็ตระหนักเสมอว่าต้องสิ้นสุดลงสักวันหนึ่ง” เจอร์ราร์ด ที่ซัด 180 ประตูจาก 695 นัดรวมทุกรายการให้ ลิเวอร์พูล เผย

ข้อมูล:manager