วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

"ซัวเรซ"ฟอร์มเทพ แฮททริกฮีโร่ นำหงส์แดงสยบนกขมิ้น 3-0


ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ  
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 
นอริช 0      -      3 ลิเวอร์พูล

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด


        เกมนกขมิ้นจิกกับหงส์แดงที่แคร์โรว์ โร้ด นอริชโรเตชั่นทีมห้ารายจากเกมบุกไปแพ้แบล็คเบิร์น 2-0 โดยเฉพาะการดร็อปกัปตันทีมแกรนท์ โฮลท์ลงไปนั่งข้างสนามให้สตีฟ มอริสันลงบู๊แทน


        ด้านลิเวอร์พูลได้กัปตันทีมสตีเว่น เจอร์ราร์ดฟิตกลับมาก่อนเกมชิงชนะเลิศเอฟเอคัพสัปดาห์หน้า และเปลี่ยนผู้เล่นห้ารายเช่นกันจากเกมแพ้เวสต์บรอมวิช 1-0 คารังโดยหนึ่งในนั้นได้แก่เคร็ก เบลลามี่ซึ่งเสียบแทนแอนดี้ แคร์โรลล์ที่ไม่อยู่ในโผ


        เริ่มเกมไปได้แค่ 9 นาที อดัม ดรูรี่แบ็คซ้ายเจ้าบ้านก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนเองจนต้องเดินเข้าอุโมงค์ไป และต้องเล่นสิบคนไปพลางๆก่อน จะส่งรัสเซลล์ มาร์ตินเซ็นเตอร์ฮาล์ฟลงไปแทนในนาทีที่ 12 พร้อมขยับไคล นอห์ตันไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย


        อย่างไรก็ดี เกมยังดำเนินไปแบบเนือยๆ ไม่มีจังหวะที่ชวนให้น่าฮือฮาแม้แต่น้อย แต่นาทีที่ 24 มาร์ตินตัวสำรองของนกขมิ้นก็ทำพลาดง่ายๆเมื่อจ่ายบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ถูกเจอร์ราร์ดฉกไปไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้หลุยส์ ซัวเรซหลุดเข้าซัลโวระยะ 12 หลาเสียบเสาสองพาเร้ด แมชีนบุกมานำ 1-0


        พอมีสกอร์ เกมของลิเวอร์พูลก็เริ่มคึกคักทันตาเห็น และนาทีที่ 27 ซัวเรซก็แผลงฤทธิ์เลื้อยขึ้นทางขวาไปแตะบอลลอดขาเอลเลียตต์ วอร์ดหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาไปจ่ายเข้ากลางให้เจอร์ราร์ดเช็คบิลระยะ 15 หลากระทบกองหลังเจ้าบ้านหลุดกรอบไป


        อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาซัวเรซกระชากบอลขึ้นทางขวาสลัดหนีวอร์ดเจ้าเก่าหลุดเดี่ยวเข้าเขต โทษได้เหมือนเดิม และคราวนี้ตัดสินใจตะบันจาก 15 หลาเสียบเสาสองอย่างเด็ดขาดเพิ่มสกอร์ให้หงส์แดงนำ 2-0


        เกมยังเป็นของอาคันตุกะข้างเดียว และถึงนาทีที่ 42 กองหลังนอริชก็ผ่านบอลสั้นในแดนตัวเองหลายจังหวะจนพลาด ทำให้วอร์ดต้องทำฟาวล์ซัวเรซพร้อมรับใบเหลืองตามระเบียบ


        จากนั้นในช่วงทดเวลาเจ็บ โจนาธาน  ฮาวสันก็ได้ใบเหลืองข้อหาตัดเกมโต้เร็วของเจอร์ราร์ดก่อนที่เสียงนกหวีดสุด ท้ายจะดังขึ้นโดยลิเวอร์พูลนำไปก่อนแบบสบายเกือก 2-0
        ครึ่งหลังนอริชเปลี่ยนเดวิด ฟ็อกซ์ออกให้เจมส์ วอห์นลงไปแทน และเปิดเกมรุกกดดันทีมเยือนทันที และได้เสียวในนาทีที่ 51 จากจังหวะกระหน่ำจากหน้าเขตโทษของเอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ที่ทำเอาโฆเซ่ เรน่าต้องออกแรงปัดทิ้ง

        กระนั้นนาทีต่อมา หงส์แดงก็เกือบสอยตาข่ายได้อีกจากการพาบอลลุยขึ้นฝั่งขวาของสจ๊วร์ต ดาวนิ่งแล้วป้ายเข้าไปหน้าปากประตูให้ซัวเรซวอลเลย์ติดบล็อคไรอัน เบนเน็ตต์  จอนโจ้ เชลวีย์จึงได้โขกซ้ำจากหกหลา แต่บอลชนคาน
        ถัดมาในนาทีที่ 55 ทีมเยือนพลาดการได้ประตูเพิ่มอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อโฆเซ่ เอ็นริเก้ขยับบุกขึ้นทางซ้ายแล้วไหลบอลมาหน้าประตูสวย แต่เชลวีย์ทะยานเข้าฮอสสามหลาโด่งข้ามคานเฉย
        นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกจากการผ่านบอลทางกราบขวาที่มอริสันได้ซัดจากหน้าเขตโทษ ถูกเกล็น จอห์นสันเข้าบล็อคทัน ทำให้บอลเปลี่ยนทิศออกเสาสองไป
        ถัดมาอีกสองนาที อาคันตุกะลุยขึ้นมาทางขวาแล้วดาวนิ่งโยกหนีไรอัน เบนเน็ตต์หลุดเข้าเขตโทษได้ แต่จังหวะตะบันเต็มข้อถูกจอห์น รัดดี้ปัดได้เยี่ยม
        ผ่านมาถึงนาทีที่ 64 ซัวเรซแตะบอลลอดขาเอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ได้ แต่กลับเลือกชิพจาก 18 หลาแทนที่จะซัลโวทั้งๆที่ไม่มีใครขวาง บอลจึงลอยไปตกใส่หลังคา
        ให้หลังมาอีกสองนาที วอห์นเข้าบอลช้าใส่เรน่าจึงโดนจดชื่อ และในนาทีที่ 71 ไรอัน เบนเน็ตต์ก็รับใบเหลืองไปอีกเมื่อยกแขนกันไม่ให้ซัวเรซวิ่งเข้าหาบอล
        จวบจนนาทีที่ 76 นกขมิ้นก็น่าจะตีไข่แตกได้จากการวางบอลยาวทางฝั่งขวาของมาร์ติน แต่วอห์นโขกระยะสิบหลาออกเสาไกลไปแค่คืบก่อนที่นอริชจะเปลี่ยนโฮลท์ลงไปแทน มอริสัน
        ในที่สุด นาทีที่ 82 นกขมิ้นก็ตายสนิทเมื่อบุกขึ้นไปแล้วเผด็จศึกไม่ได้ถูกดาเนี่ยล แอ็กเกอร์เตะทิ้งขึ้นมาจากเส้นหลังถึงกลางสนาม แล้วกัปตันวอร์ดเจ้าเก่าเฟอะฟะอีกตามเคย โดนซัวเรซแย่งบอลได้แล้วกองหน้าอุรุกวัยจัดแจงชิพจากเกือบๆ 45 หลาเข้าประตูอย่างแม่นยำทำแฮททริคให้เร้ด แมชีนนำขาด  3-0 และนับเป็นการทำแฮตทริกในเกมนี้ของเจ้าตัวอีกด้วย
        จากนั้นในนาทีที่ 86 ทีมเยือนก็เก็บเจอร์ราร์ดกับซัวเรซออกไปพักให้เดิร์ก เคาท์กับเซบาสเตียน โกอาเตสลงไปแทน ช่วงเวลาที่เหลือเกมบุกของหงส์แดงดูผ่อนลงแต่ก็ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้จบ เกมลิเวอร์พูลจึงกำชัยไปอย่างสวยหรู 3-0


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


        นอริช :
จอห์น รัดดี้, ไคล์ นอห์ตัน, ไรอัน เบนเน็ตต์, เอลเลียตต์ วอร์ด, อดัม ดรูรี่ (รัสเซลล์ มาร์ติน น.12), เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, โจนาธาน ฮาวสัน, เดวิด ฟ็อกซ์ (เจมส์ วอห์น น.76), แบรดลี่ย์ จอห์นสัน, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, สตีฟ มอริสัน (แกรนท์ โฮลท์ น.76)

        สำรองไม่ได้ใช้
: เจด สเตียร์, แอนดรูว์ เซอร์แมน, เวส ฮูลาแฮน, อารอน วิบราแฮม

        ใบเหลือง
: วอร์ด, ฮาวสัน, วอห์น, ไรอัน เบนเน็ตต์


        ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (เซบาสเตียน โคอาเตส น.85), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, จอนโจ เชลวี่ย์, เคร็ก เบลลามี่, หลุยส์ ซัวเรซ (เดิร์ค เค้าท์ น.85)

        สำรองไม่ได้ใช้ :
อเล็กซานเดอร์ โดนี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, มาร์ติน เคลลี่, เจย์ สเปียริง, มักซี่ โรดริเกซ

        ใบเหลือง :
-


        ผู้ตัดสิน
: มาร์ค ฮัลซี่ย์


สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแล่ม  4 - 0
- สโต๊ค ซิตี้ เสมอ อาร์เซน่อล  1 - 1
- ซันเดอร์แลนด์ เสมอ โบลตัน  2 - 2
- สวอนซี ซิตี้ เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน  4 - 4
- เวสต์บรอมวิช เสมอ แอสตัน วิลล่า  0 - 0
- วีแกน ชนะ นิวคาสเซิ่ล  4 - 0
- นอริช ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล  0 - 3

หางาน    งาน       job       ประกาศรับสมัครงาน

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

"อีกแล้วครับท่าน" หงส์แดงเปิดบ้านพ่ายเวสต์บรอม 1-0


พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 0:1 เวสต์บรอมวิช
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ "เดอะ แบ๊กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

ครึ่ง แรกเริ่มเกมมา 10 นาทีเป็น เวสต์บรอมวิช ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ คริส บรันท์ ได้ปั่นด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลาแต่บอลเข้ามือ โฆเซ่ เรน่า

ลิ เวอร์พูล เกือบได้เฮในนาที 18 จากจังหวะที่ หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลไต่เส้นหลังก่อนเปิดเรียดมาเสาไกลแต่ แดเนียล แอ็กเกอร์ ชาร์จไม่ทันบอลผ่านหน้าประตูออกไป

หงส์แดง มีโอกาสอีกครั้งในนาที 24 เมื่อ เกล็น จอห์นสัน แทงบอลเข้าเขตโทษให้ หลุยส์ ซัวเรซ วิ่งเข้าไปยิงด้วยขวา เบน ฟอสเตอร์ ปัดมาเข้าทาง มักซี่ โรดริเกซ ซ้ำข้ามคาน

ทีมเยือนมีลุ้นในนาที 28 เป็น คริส บรันท์ ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายในเขตโทษแต่ เรน่า ซูเปอร์เซฟไว้ได้

เวสต์บ รอมฯ ได้ลูกเตะมุมในนาที 33 เกรแฮม ดอร์แรนส์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เลียม ริดจ์เวลล์ ยิงด้วยซ้ายจากระยะ 6 หลาแต่ เรน่า ยังปัดได้ทัน

ลิ เวอร์พูล สวนกลับนาที 41 เป็น แดเนียล แอ็กเกอร์ ได้ชาร์จเผาขนแต่ก็เป็น เบน ฟอสเตอร์ ที่ป้องกันไว้ได้หมดครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่ง หลังเริ่มมา 3 นาที ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูนำเมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ซัดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษบอลพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย

เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้งในนาที 60 เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ จ่ายบอลให้ เดิร์ค เค้าท์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาบอลแฉลบกองหลังไปชนเสาออกไป

สามนาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ เกล็น จอห์นสัน โยนบอลเข้าไปหน้าประตูให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ โหม่งข้ามคาน

นาที 74  เวสต์บรอมวิช มาได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน จ่ายบอลพลาดโดน ยุสซุฟ มูลุมบู ตัดได้ก่อนไหลให้ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ หลุดไปยิงสวนตัว เรน่า เข้าไป

ลิเวอร์พูล น่าจะตีเสมอได้เมื่อ เคร็ก เบลลามี่ ได้ซัดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ เบน ฟอสเตอร์ รับหลุดมือโดน แอนดี้ แคร์โรลล์ ซ้ำจ่อๆ แต่บอลยังติดตัว โยนาส โอลส์สัน สกัดได้ทัน

เวลาที่เหลือเจ้าถิ่นโหมหนักแต่ยิงประตูไม่ได้จบเกม เวสต์บรอมวิช บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเพียริง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด,เดิร์ค เค้าท์, มักซี่ โรดริเกซ, แอนดี้ แคร์โรลล์, หลุยส์ ซัวเรซ

เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์, บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนาส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์,ยุสซุฟ มูลุมบู, คริส บรันท์, เกรแฮม ดอร์แรนส์,เจอโรม โธมัส,ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้, เชน ลอง

สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- แมนฯ ยูไนเต็ด 4:4 เอฟเวอร์ตัน
- ลิเวอร์พูล 0:1 เวสต์บรอมฯ
- วูล์ฟแฮมป์ตัน 0:2 แมนฯ ซิตี้

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

"ฮีโร่ตัวจริง" แคร์โรลล์โขกพาหงส์แดงเข้าชิง ศึกเอฟเอคัพ


 
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555
ลิเวอร์พูล  2-1   เอฟเวอร์ตัน


สนาม : เวมบลีย์


          ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ ฉบับเอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน โดยเกมนี้ ถือเป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกในแบบฉบับฟุตบอลถ้วยนับตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 โดย "หงส์แดง" ส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด นำทัพ โดยเกมนี้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ออกสตาร์ทตัวจริงด้วย ขณะที่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ใช้ ทิม เคฮิลล์ ประสานงาน นิคิช่า เยลาวิช ล่าตาข่าย

     เริ่มเกมมาเพียง5นาที เป็นฝ่ายทีมทอฟฟี่ ได้ยิงก่อน จากลูกฟรีคิกระยะ25หลา กลางประตูของ เลห์ตัน เบนส์ ปั่นด้วยเท้าซ้ายข้ามกำแพง แต่บอลฮุคไปตรงบนหลังคาตาข่ายแทน

     นาที ที่14 เป็นฝ่าย ลิเวอร์พูล ได้จบบ้าง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วางบอลมาให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ โหม่งตั้งกลับมาให้ มาร์ติน สเคอร์เทล พักอกเอาบอลลง ก่อนตวัดยิงวอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้าย แต่บอลตรงตัว ทิม ฮาวเวิร์ด

     อีก6นาที ต่อมา เป็นฝ่าย เอฟเวอร์ตัน มีลุ้นอีกครั้ง จากการจักรยานอากาศยิงในกรอบเขตโทษของ นิคิช่า เยลาวิช แต่บอลเบาและตรงตัว แบร๊ด โจนส์ รับสบาย

     นาที ที่24 ลิเวอร์พูล เสียประตูอย่างไม่น่าเชื่อ จากจังหวะกั๊กกันเองของสองกองหลัง ระหว่าง มาร์ติน สเคอร์เทล กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ไม่ยอมเคลียร์บอลในจังหวะแรก จนบอลจวนตัว คาร์ราเกอร์ เตะสกัดไปติดตัว ทิม เคฮิลล์ บอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ นิคิช่า เยลาวิช วิ่งมาแปยิงง่ายๆให้ เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ 1-0

     นาทีที่36 หลังเสียประตู ลิเวอร์พูล พยายามเปิดเกมบุกใส่ และมีโอกาสได้จบสกอร์ จากการยิงไกลของ  สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่บอลลอยโด่งข้ามคานแบบไม่มีลุ้น

     นาทีต่อมา เอฟเวอร์ตัน โดนใบเหลืองไปก่อนจาก ซิลแว็ง ดิสแต็ง ในข้อหาไม่มีน้ำใจนักกีฬา

     ช่วง ท้ายครึ่งแรก แม้ลิเวอร์พูล จะครองบอลมากกว่า แต่เป็นฝ่ายทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่โต้กลับมาได้แบบมีลุ้นมากกว่า แต่ก็เบิกประตูเพิ่มกันไม่ได้ หมดครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน จึงนำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0


     เริ่มครึ่งหลังมาสองนาที ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง พาบอลไปทางริมสนามฝั่งขวา ก่อนเปิดยาวมาที่หน้าประตู บอลโด่งมาถึง แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ยืนอยู่เสาไกลคนเดียวแบบไร้คนประกบ กระโดดขึ้นโขกเดี่ยวๆเต็มหัว แต่หัวหอกร่างยักษ์ กลับโหม่งบอลออกไปเองแบบน่าเขกกะโหลก


     นาที ที่58 ทั้งสองทีมรับใบเหลืองไปทั้งคู่ เมื่อ มาร์ติน สเคอร์เทล ไปปะทะกับ นิคิช่า เยลาวิช ก่อนจะมีย่ำใส่กันนิดหน่อย จนมีปะทะคารมกัน จนผู้ตัดสินต้องควักใบเหลืองเตือนให้ใจเย็นๆ


     อย่าง ไรก็ตาม4นาที ต่อมา เหล่าเดอะค็อป ได้เฮกันบ้าง เมื่อ ซิลแว็ง ดิสแต็ง ส่งบอลคืนหลังพลาด ถูก หลุยส์ ซัวเรซ ฉกบอลไป ก่อนลากไปยิงเรียดสวนตัว ทิม ฮาวเวิร์ด ส่งบอลตุงตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 1-1


     นาที ที่74 ลิเวอร์พูล รับใบเหลืองไปอีกคน เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ เลยโดนใบเหลืองไปตามระเบียบ


     ก่อน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะถูกเปลี่ยนตัวออก และ ลิเวอร์พูล ได้ส่ง มักซี่ โรดริเกซ ลงมาแทน


     นาทีที่78 ลิเวอร์พูล มีโอกาสใกล้เคียงกับการได้ประตูอีกครั้ง จากการซัดด้วยเท้าซ้ายของ แอนดี้ แคร์โรลล์ ระยะ6หลา แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไป


     นาทีที่84 ลิเวอร์พูล  ทำการเปลี่ยนตัวอีกครั้ง ด้วยการส่ง เคร็ก เบลลามี่ ลงมาแทน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง


     แล้ว ก็เห็นผลทันที เมื่อ3นาทีต่อมา เคร็ก เบลลามี่ ลงมาเปิดฟรีคิก ให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ โหม่งส่งบอลตุงตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล แซงขึ้นนำ 2-1


     หลัง เสียประตู เอฟเวอร์ตัน แก้เกม ส่ง วิคเตอร์ อนิเคบี้ ลงมาแทน เลห์ตัน เบนส์ แต่กลับกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่เกือบบวกประตูเพิ่ม เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนแทงบอลไปเสาสองให้ มักซี่ โรดริเกซ ยิงโล่งๆ แต่บอลไปชนเสาเต็มๆ


     ช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา ลิเวอร์พูล จึงแซงเฉือนเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ รอพบผู้ชนะระหว่าง สเปอร์ส กับ เชลซี ต่อไป

รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล(4-2-3-1 ):แบร๊ด โจนส์,เกล็น จอห์นสัน,มาร์ติน สเคอร์เทล,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,เจย์ สเพียริง,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง,สตีเว่น เจอร์ราร์ด,หลุยส์ ซัวเรซ,แอนดี้ แคร์โรลล์

สำรอง :ปีเตอร์ กูลาสชี่,โฆเซ่ เอ็นริเก้,มักซี่ โรดริเกซ,เดิร์ก เค้าท์,จอนโจ เชลวี่ย์,มาร์ติน เคลลี่,เคร็ก เบลลามี่

เอฟเวอร์ตัน(4-4-1-1):ทิม ฮาวเวิร์ด,ฟิล เนวิลล์,จอห์นนี่ ไฮติงก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง,เลห์ตัน เบนส์,มากาเย่ กูเอเย่,มารูยาน เฟลไลนี่,ดาร์รอน กิ๊บสัน,ลีออน ออสแมน,ทิม เคฮิลล์,นิคิช่า เยลาวิช

สำรอง:มาร์คุส ฮาห์เนมันน์,โทนี่ ฮิบเบิร์ต,ฟิล จากีลก้า,เดนิส สตรัคคัวลูร์ซี่,เจมส์ แม็คฟาดเด้น,ซีมุส โคลแมน,วิคเตอร์ อนิเคบี้

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

"แคร์โรลล์"มาแล้ว โขกนำหงส์แดงสอย 3 แต้มเต็ม


พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น 2:3 ลิเวอร์พูล

  "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ ทีมท้ายตาราง เปิดสนามอีวู้ด พาร์ครับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล

ครึ่งแรกเริ่มเกมมาถึงนาที 13 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะสวนกลับ เคร็ก เบลลามี่ ควบบอลขึ้นมาสุดเส้นด้านขวาก่อนเปิดเรียดไปเสาไกลให้ มักซี่ โรดริเกซ แปเผาขนตุงตาข่ายเป็น 1-0

ถัดมา 3 นาทีหงส์แดงขยับหนีห่างไปเป็น 2-0 เมื่อ จอนโจ เชลวี่ย์ ลากขึ้นไปซัดหน้าเขตโทษโดน พอล โรบินสัน ปัดได้ แต่ยังมี แอนดี้ แคร์โรลล์ ล้มตัวซ้ำไปติดบล็อก สกอตต์ แดนน์ เด้งมาเข้าทางมักซี่แปซ้ำด้วยซ้ายไม่เหลือ

นาที 25 ทีมเยือนต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อฟลานาแกนจ่ายคืนหลังพลาดโดน ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ฉกบอลหลุดเดี่ยวไปโดน อเล็กซานเดอร์ โดนี่ รวบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษพร้อมแจกใบแดงไล่นโดนี่ออกไปทันที ทำให้ทีมเยือนต้องเปลี่ยนเอาฟลานาแกนออกแล้วส่ง แบรด โจนส์ ลงมาเฝ้าเสาแทน ก่อนที่ยาคูบูจะรับหน้าที่สังหารไปโดน โจนส์ ล้มตัวตะปบไว้ได้

นาที 36 กุหลาบไฟมาตามตีไข่แตก 1-2 จนได้จากจังหวะฟรีคิกทางกราบขวา เดวิด ดันน์ โยนโค้งไปเข้าหัวยาคูบูโขกตุงตาข่ายแก้ตัวสำเร็จและหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่ง หลังกลับมาเล่นต่อ 4 นาทีลิเวอร์พูลได้ลุ้นเมื่อเบลลามี่โยนลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายโค้งทะลุมาเสา ไกลถึงแคร์โรลล์พยายามโถมเข้าโขก แต่โดนไม่เต็มบอลออกข้างไป

นาที 60 แบล็คเบิร์นมาได้จุดโทษอีกครั้งเมื่อ แบรด โจนส์ เตะเปิดเกมไม่ดีไปติดยาคูบูที่เข้ามาบล็อกบอลโด่งดูเหมือนไม่อันตราย แต่โจนส์ดันรับหลุดมือ แล้วก็ไปดึงยาคูบูล้ม ในขณะที่จะวิ่งตามลูกไป ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ทันทีและเป็นยาคูบูที่รับหน้าที่สังหารอีกครั้งคราวไม่ พลาดซัดพาทีมไล่ตีเสมอ 2-2

นาที 76 กุหลาบไฟเกือบแซงนำจากจังหวะที่ พอล โรบินสัน เตะโด่งยาวขึ้นมา แอนดี้ แคร์โรลล์ พยายามโขกสกัดที่หน้าเขตโทษตัวเอง แต่บอลดันกลับหลังเหมือนจะเสียบใต้คานตัวเองแล้ว ทว่าโจนส์ยังปัดทิ้งไปได้

เกม ทำท่าจะจบด้วยผลเสมอแต่ช่วงทดเจ็บเป็นหงส์แดงที่มาได่ประตูชัยจากจังหวะที่ เซบาสเตียน โคอาเตส เปิดบอลยาวเข้ากรอบโทษแดเนี่ยล แอ็กเกอร์ โหม่งตั้งให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ พุ่งโขกตุงตาข่ายให้ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะแบล็คเบิร์น แบบสุดมันส์ 3-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน, แบร็ดลี่ย์ ออร์, สกอตต์ แดนน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, มาร์ติน โอลส์สัน, เดวิด ฮอยเล็ตต์, เดวิด ดันน์, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, มาร์คุส โอลส์สัน, เมาโร ฟอร์มิก้า, ยาคูบู ไอเย็กเบนี่

ลิเวอร์พูล : อเล็กซานเดอร์ โดนี่, จอน ฟลานาแกน, เซบาสเตียน โคอาเตส, มาร์ติน สเคอร์เทล, เกล็น จอห์นสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอนโจ เชลวี่ย์, เจย์ สเพียริง, มักซี่ โรดริเกซ, เคร็ก เบลลามี่, แอนดี้ แคร์โรลล์

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

หงส์แดงยังไม่ฟื้น เปิดบ้านแค่เสมอ วิลล่า 1-1


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 1:1 แอสตัน วิลล่า

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า โดยที่เจ้าถิ่นผลงานช่วงหลังสุดแย่ 8 นัดหลังสุดในลีกพ่ายถึง 6 นัด

โดยเกมนี้หงส์แดงขาดโฆเซ่ เรน่า ประตูมือ1ที่เริ่มติดโทษแบน 3 นัด แต่ยังมีสตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ หลุยส์ ซัวเรซ นำทัพ

ฝั่งทีมเยือนจัดทัพใหญ่ลงสู้เพื่อหนีตายวาง แบร์รี่ แบนแนน,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ และ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ เป็นแกนหลักแนวรุก

ครึ่ง แรกเปิดฉากไปเพียง 6 นาทีหงส์แดงได้ลุ้นก่อนเมื่อ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง พาบอลขึ้นไปทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดเรียดไปหน้าประตูบอลเลยไปถึง เดิร์ค เค้าท์ ชาร์ตเผาขนแต่ เชย์ กิฟเว่น เซฟได้จากบนเส้นประตูอย่างเหลือเชื่อ

นาที ที่10 เป็นแอสตัน วิลล่าที่ออกนำ 1-0 เมื่อสตีเฟ่น วอร์น็อค เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปหน้าประตู อเล็กซานเดอร์ โดนี่ ปัดออกมาเข้าทาง แบร์รี่ แบนแนน พักเอาบอลลงแล้วไหลให้ คริส เฮิร์ด แปเน้นๆตุงตาข่าย

นาที 20 ยังเป็นโอกาสของทีมเยือนเมื่อ เอมิล เฮสกี้ พาบอลหนีสจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ไปถึงกรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาบอลแฉลบ มาร์ติน สเคอร์เทล ออกหลังอย่างน่าเสียดาย

นาที 36 หงส์แดงได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดไปเสาไกล มาร์ติน สเคอร์เทล ขึ้นโขกเต็มๆแต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป

นาทีสุดท้าย ยังเป็นโอกาสของเจ้าถิ่นเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลลุยไปทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดบอลลึกไปเสาไกล สตีเว่น เจอร์ราร์ด กึ่งยิงกึ่งผ่านกลับมาหน้าประตูเข้าทาง เดิร์ค เค้าท์ ที่ยืนอยู่โล่งๆ แต่กลับยิงข้ามคานอย่างเหลือเชื่อทำให้หมดครึ่งแรกหงส์แดงตามหลัง0-1

ครึ่ง หลังกลับมาเล่นจนถึงนาที 53 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากจังหวะที่สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวามาหน้าประตู หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งเช็ดไปทางเสาสองบอลชนเสาจะหมุนข้ามเส้นอยู่แล้วแต่ เชย์ กิฟเว่น ปฎิกิริยายังไวพุ่งปัดออกไปได้หวุดหวิด

นาที 78 หงส์แดงได้ลุ้นอีกเมื่อกองหลังทีมเยือนสกัดบอลออกไปเข้าทาง เคร็ก เบลลามี่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองเก็บตกแล้วหาจังหวะซัดเน้นๆแต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป

นาที 82 เจ้าถิ่นตามตีเสมอ 1-1 จนได้เมื่อได้เตะมุมทางฝั่งซ้ายกองหลัง วิลล่าสกัดมาเข้าทาง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดย้อนกลับไปทางเสาสอง ดาเนี่ยล แอ็คเกอร์ พุ่งโหม่งชนคาน บอลมาตกเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งจ่อๆตุงตาข่าย

นาที 88 ยังเป็นโอากสของหงส์แดงเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดบอลมาจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าประตู แอนดี้ แคร์โรลล์ ขึ้นโขกเต็มหัวแต่บอลตรงตัว เชย์ กิฟเว่น

จากนั้นหงส์แดงโหมเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ยิงเพิ่มไม่ได้ทำให้จบเกมลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : อเล็กซานเดอร์ โดนี่,จอน ฟลานาแกน,เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอนโจ เชลวี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง,เดิร์ค เค้าท์, หลุยส์ ซัวเรซ

แอสตัน วิลล่า : เชย์ กิฟเว่น,อลัน ฮัตตัน, เจมส์ คอลลินส์,นาธาน เบเกอร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค,เอริก ลิชาจ,แบร์รี่ แบนแนน, คริส เฮิร์ด, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์,กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, เอมิล เฮสกี้

สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- ซันเดอร์แลนด์ 0:0 สเปอร์ส
- โบลตัน 0:3 ฟูแล่ม
- เชลซี 2:1 วีแกน
- ลิเวอร์พูล 1:1 แอสตัน  วิลล่า
- นอริช 2:2 เอฟเวอร์ตัน
- เวสต์บรอมวิช 3:0 แบล็คเบิร์น

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

"ฟอร์มสุดห่วย" หงส์แดงพ่าย 3 นัดติด


                                            ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
                                          วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2555
                                       นิวคาสเซิ่ล  2     -     0  ลิเวอร์พูล

สนาม : สปอร์ตส์ ไดเรกท์ อารีน่า


          "สาลิกา ดง" นิวคาสเซิ่ล เปิดรังสปอร์ตส์ ไดเรกท์ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดยเจ้าถิ่นส่ง เดมบา บา จับคู่ล่าตาข่ายกับ ปาปิสส์ ซิสเซ่ ขณะที่ทีมเยือนใช้สามประสาน หลุยส์ ซัวเรซ,เคร็ก เบลลามี่ และ แอนดี้ แคร์โรลล์ ลงเจอทีมเก่า


     เริ่มเกมมาเพียง3นาที เป็นฝ่ายทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้ยิงทักทายก่อนจาก จอนโจ เชลวี่ย์ แต่แนวรับของนิวคาสเซิ่ล ยังป้องกันได้อยู่


     5นาที ต่อมา บังเกิดใบเหลืองแรกอย่างรวดเร็ว เมื่อ แอนดี้ แคร์โรลล์ ไปเจตนาพุ่งล้มจากจังหวะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ซึ่งนอกจากไม่ได้จุดโทษแล้ว ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ยังแจกใบเหลืองฐานตบตาอีกต่างหาก


     นาที ที่14 ลิเวอร์พูล มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อได้ลูกเตะมุม ทิม ครูล ตัดบอลพลาดแล้ว บอลหลุดมาถึง แอนดี้ แคร์โรลล์ เข้าชาร์จแต่บอลไปติด แดนนี่ ซิมพ์สัน ที่ยืนเฝ้าเส้นอยู่ แม้จะถูกแขนนิดหน่อยแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร


     นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล โดนใบเหลืองอีกใบ จากจังหวะไปทำฟาวส์จากด้านหลังใส่ ปาปิสส์ ซิสเซ่ ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน แจกอีกใบ


     แต่ แล้วในนาทีที่19 ทูนอาร์มี่ ได้เฮกันลั่น เมื่อ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา เปิดบอลไปที่หน้าประตูให้ ปาปิสส์ ซิสเซ่ กระโดดโหม่งย้อนกลับมาเสาไกล บอลเด้งเสาเข้าประตู ชนิด โฆเซ่ เรน่า ได้แต่ใช้ตาเซฟ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำ 1-0


     นาทีที่27 ลิเวอร์พูล มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ เคร็ก เบลลามี่ ได้บอลทะลุไปทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเปิดยัดเข้ากลาง กองหลังนิวคาสเซิ่ล พยายามสกัด บอลกระดอนโด่ง แอนดี้ แคร์โรลล์ พยายามโถมโหม่ง แต่บอลลอยข้ามคานออกไป


     นาทีที่34 นิวคาสเซิ่ล มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง เมื่อ เดมบา บา พาบอลขึ้นมายังแดนลิเวอร์พูล ก่อนสับไกยิง บอลแฉลบขา มาร์ติน สเคอร์เทล เปลี่ยนทางเฉียดเสาออกหลังไปอย่างมีลุ้น


     นาทีที่41 ทีมเจ้าถิ่นพลาดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย เมื่อ แดนนี่ กัทธรี ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดไปที่หน้าประตูให้ ปาปิสส์ ซิสเซ่ สะบัดโขกไปทางเสาสอง แต่บอลหลุดออกหลังไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด


     ช่วง ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล โดนใบเหลืองอีกคน จากจังหวะที่ จอน ฟลานาแกน ไปดับเครื่องชนใส่ ชีค ติโอเต้ รับใบเหลืองไปอีกคน ก่อนช่วงเวลาที่เหลือจะบวกสกอร์เพิ่มกันไม่ได้ หมดครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล จึงนำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0


     เริ่มครึ่งหลังมาเพียง2นาที นิวคาสเซิ่ล เกือบได้ประตูอีกครั้ง เมื่อ แดนนี่ กัทธรี เปิดบอลจากฝั่งขวาเช่นเดิมไปที่หน้าประตู ไมค์ วิลเลียมสัน กระโดดขึ้นโหม่งย้อนกลับมาที่เสาแรก แต่บอลชนเสาเต็มๆ


     นาทีต่อมา นิวคาสเซิ่ล รับใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ ชีค ติโอเต้ ไปฟาวส์แรงใส่ จอน ฟลานาแกน ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้อีกคน


     นาที ที่57 ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้จบ เมื่อ จอนโจ เชลวี่ย์ พาบอลลุยขึ้นมาสับไกยิงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลเบาและตรงตัว ทิม ครูล รับสบาย


     2นาที ต่อมา สาลิกาดง มาบวกประตูที่สองเพิ่มอีกจนได้ เมื่อ เดมบา บา แทงบอลมาทางเสาสอง จอน ฟลานาแกนพยายามจะเข้าสกัดแต่ไม่โดน บอลรอดตัวมาถึง ปาปิสส์ ซิสเซ่ ที่รออยู่เสาสองคนเดียว ล็อคบอลหลบ โฆเซ่ เรน่า ส่งบอลตุงตาข่ายอย่างใจเย็น นิวคาสเซิ่ล นำ 2-0


     นาทีที่60 ลิเวอร์พูล พลาดประตูตีไข่แตกอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ ทิม ครูล ออกมาตัดบอลพลาด หลุยส์ ซัวเรซ เก็บบอลได้ก่อนยิงด้วยเท้าขวาแต่ เจมส์ เพิร์ช ตามมาขวางได้ทัน


     5นาทีต่อมา นิวคาสเซิ่ล ทำการเปลี่ยนตัว ด้วยการส่ง แดน กอสลิ่ง ลงมาแทน แดนนี่ กัทธรี ที่มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว




        นาที ที่75 ทั้งสองทีมทำการเปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดย นิวคาสเซิ่ล ส่ง โชล่า อโมบี้ ลงมาแทน ปาปิสส์ ซิสเซ่ ผู้ยิงสองประตูในเกมนี้ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ส่ง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ลงมาแทน จอนโจ เชลวี่ย์




        3นาที ต่อมา ลิเวอร์พูล ทำการเปลี่ยนตัวอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนเอา เดิร์ก เค้าท์ ลงมาแทน แอนดี้ แคร์โรลล์ แล้วเปลี่ยน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงแทน เคร็ก เบลลามี่






        สถานการณ์ ของทีมหงส์แดง ยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เมื่อต้องเหลือ10คน หลัง โฆเซ่ เรน่า ไม่พอใจจากจังหวะปะทะกับ เจมส์ เพิร์ช หน้าประตู จนเข้าไปมีปากเสียงกัน ก่อน เรน่า จะเหมือนเอาหัวไปโขก เจมส์ เพิร์ช แม้จะโดนไม่หนัก แต่ ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ก็ให้ใบแดง เรน่า ออกจากสนาม ส่วน เจมส์ เพิร์ช โดนใบเหลืองไป




        และหลังเปลี่ยนครบไปสามคนแล้ว ทำให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ต้องมาทำหน้าที่นายผู้รักษาประตูจำเป็นแทน โฆเซ่ เรน่า ไปแบบไม่มีทางเลือก




        นาที ที่90 นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยนตัวอีกคน ด้วยการส่ง ดาวิเด้ ซานตอน ลงมาแทน ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ทำอะไรกัน ไม่ได้ หมดเวลา นิวคาสเซิ่ล ชนะ ลิเวอร์พูล ไป 2-0 ทำให้ทีมหงส์แดง อยู่อันดับ8 พ่ายในลีกมา6นัดใน7เกมล่าสุดแล้ว


11นักเตะของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิ่ล(4-4-2):ทิม ครูล,แดนนี่ ซิมพ์สัน, เจมส์ เพิร์ช,ไมค์ วิลเลียมสัน,โฮนาส กูเตียร์เรซ,ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา,ชีค ติโอเต้,แดนนี่ กัทธรี,โยฮัน กาบาย, เดมบา บา, ปาปิสส์ ซิสเซ่


สำรอง:ร็อบ เอลเลียต,ดาวิเด้ ซานตอน,แดน กอสลิ่ง,ไรอัน เทย์เลอร์,โชล่า อโมบี้,ฮาริส วุชคิช,เชน เฟอร์กูสัน


ลิเวอร์พูล(4-4-1-1):โฆ เซ่ เรน่า,จอน ฟลานาแกน,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,โฆเซ่ เอ็นริเก้,จอนโจ เชลวี่ย์,สตีเว่น เจอร์ราร์ด,เจย์ สเพียริง,หลุยส์ ซัวเรซ,แอนดี้ แคร์โรลล์,เคร็ก เบลลามี่


สำรอง :อเล็กซานเดอร์ โดนี่,เซบาสเตียน โคอาเตส,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,เดิร์ก เค้าท์,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,มักซี่ โรดริเกซ


ผู้ตัดสิน:มาร์ติน แอตกินสัน