วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"หงส์แดง"ฟอร์มเทพเปิดบ้านรัวเจ้าสัวยับ 4-0



ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 
วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555
 ลิเวอร์พูล 4   -   0 ฟูแล่ม
 
สนาม : แอนฟิลด์    ผู้ชม: 44,570 คน

       
        "หงส์แดง"  ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมนี้พัก ราฮีม สเตอร์ลิง และโจ อัลเลน ไว้ข้างสนาม โดยในแนวรุกวาง ซูโซ่, จอนโจ เชลวี่ย์ และ หลุยส์ ซัวเรซ มีสตีเว่น เจอร์ราร์ด และ ลูคัส เลว่า คุมเกมแดนกลาง
           

        ทางฝั่ง ฟูแล่ม ของกุนซือ มาร์ติน โยล สภาพทีมต้องขาด สตีฟ ซิดเวลล์ กองกลางติดโทษแบน 1 นัด ขณะที่ มาอามาดู ดิยาร์ร่า เจ็บเข่า และ ไบรอัน รูอิซ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แนวรุกใช้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นหน้าเป้า
     เริ่มเกมครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกกดดันทันที ผ่านไป 5 นาที ก็ได้จังหวะเตะมุมครั้งแรก ดาวนิ่ง เปิดไปบริเวณจุดโทษ และเป็น แอ็กเกอร์ ได้โหม่งข้ามคานออกไป



     จาก นั้นเพียงแค่ 3 นาทีต่อมา แฟนๆเจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่นสนาม จากลูกเตะมุมอีกครั้งทางขวา คราวนี้เป็น เจอร์ราร์ด เปิดมาหน้าประตู บอลมาถึงสเคอร์เทล จับบอลลง ก่อนวอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆ ระยะประมาณ 12 หลา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูล นำ 1-0

     พอ นำเร็ว เจ้าบ้านก็ยิ่งคึก นาทีที่ 13 สจ๊วร์ต ดาวนิ่งก็ลองตะบันจากหน้าเขตโทษระยะ 25 หลา ทำเอามาร์ค ชวาร์เซอร์ต้องบินปัดให้พ้นกรอบ
     ผ่าน ไป 20 นาที ฟูแล่ม เริ่มครองเกมได้มากขึ้น แต่ก็ไม่มีจังหวะได้กดดัน ลิเวอร์พูล เท่าไหร่ และเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้น ในนาทีที่ 22 หลุยส์ ซัวเรซ ลองซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

     นาทีที่ 25 ทีมหงส์แดง น่าจะได้ประตูที่ 2 สุดๆ เมื่อเจอร์ราร์ด ยิงไปติดบล็อกของ ฮันเกลันด์ บอลหลุดมาถึง ซัวเรซ ริมเส้นฝั่งขวา ก่อนไหลใส่พานมาให้ แอ็กเกอร์ ที่ยืนอยู่โล่งหน้าปากประตู ยิงแบบลื่นๆ บอลข้ามคานไปแบบไม่น่าเชื่อ

     จากนั้นอีก 2 นาที ฟูแล่ม ตอบโต้มาบ้าง เป็น คีแรน ริชาร์ดสัน ซัดไกล ประมาณ 25 หลาด้วยซ้าย เรน่า เกือบหลงทางดีที่ใช้เท้าเซฟไว้ได้



     
ผ่าน มาถึงนาทีที่ 36 ลิเวอร์พูล ก็ออกนำเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะที่ดาวนิ่ง แทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษ ให้เจอร์ราร์ด วิ่งมารับบอลแล้วซัดด้วยขวา ผ่านชวาร์เซอร์ เสียบเสาสองเขาไป     เจ้า ถิ่นยังทำเกมได้ดีต่อเนื่อง นาทีที่ 40 ซัวเรซ แทงให้ ซูโซ่ ได้ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลเลียดหลุดเสาออกหลังไป จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำ ฟูแล่ม 2-0

     เปิดฉากครึ่งหลัง ฟูแล่ม แก้เกมทันที ส่ง ฮูโก้ โรดาเยก้า ลงมาแทน  อเล็กซ์ คาชานิคลิช
     และ เพียงนาทีเดียวเท่านั้น ทีมเร้ด แมชีน เกือบได้ลูกสาม เมื่อ ดาวนิ่ง เปิดไปแฉลบรีเซ่ บอลเลยไปถึง ซัวเรซ ที่ยืนอยู่เสาสองโล่งๆ ซัดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย



     จน ถึงนาทีที่ 52 ลูกที่ 3 ก็มาจนได้ จากการฉายเดียวของ สจ๊วต ดาวนิ่ง ขึ้นเกมทางขวา ก่อนจะลากตัดเข้าเท้าซ้ายข้างถนัด ซัดตูมเดียวในเขตโทษเสียบเสาแรกสุดสวย

     นาทีต่อมาเกล็น จอห์นสัน มาโดนใบเหลืองคนแรก เมื่อไปเสียบ คีแรน ริชาร์ดสัน

     นาทีที่ 54 เจ้าสัวน้อย ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนที่สอง ถอด คีแรน ริชาร์ดสัน ออก แล้วส่ง คาริม ฟราย ลงมาแทน

     นาทีที่ 69 ดาวนิ่ง เกือบบวกลูกที่สองให้กับตัวเอง เมื่อซัดนอกกรอบด้วยซ้าย บอลเลี้ยวหนีสามเหลี่ยมไปนิดเดียว

     อีก 2 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวคนแรก ถอด ซูโซ่ ออก แล้วส่งราฮีม สเตอร์ลิง ลงมาลากเลื้อยแทน

     นาทีที่ 74 เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคนที่สองต่อทันที ส่งโจ อัลเลน ลงสนามมาแทน จอนโจ เชลวี่ย์

     นาทีที่ 78 อัสคัน เดยาก้าห์ มาโดนเหลืองเป็นคนแรกของฝั่ง ฟูแล่ม

     เกม ยังเป็นของทีมหงส์แดงต่อเนื่อง นาทีที่ 79 มาได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ซัวเรซ เปิดมาหน้าประตูบอลหลุดมาถึง เจอร์ราร์ด ได้แปเน้นๆที่เสาแรก แต่เป็นชวาร์เซอร์ ที่หุบขาป้องกันไว้ได้


      นาที ต่อมา ฟูแล่ม โต้มาบ้าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ได้ซัดไกลนอกกรอบ ร้อนถึงโฆเซ่ เรน่า ต้องทุบออกมาแล้วเป็น สเคอร์เทล เครียร์ทิ้งไปได้ ก่อนเบอร์บาตอฟ จะได้ส่องอีกครั้ง แต่คราวนี้เข้าซองเรน่า

     นาทีที่ 83 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จัดการเปลี่ยนคนสุดท้าย ถอด ลูคัส เลว่า ไปพัก แล้วส่ง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ลงมายื้ดเส้นยื้ดสาย

     สองนาทีต่อมา จอร์จอส คารากูนิส มารับใบเหลืองอีกคน เมื่อไปทำฟาวล์ ราฮีม สเตอร์ลิง

     และเป็นฟรีคิกระยะอันตรายของเจ้าถิ่น หลุยส์ ซัวเรซ อาสาปันด้วยขวา ไปที่เสาสอง แต่เป็น ชวาร์เซอร์ ที่พุ่งปัดเอาไว้ได้

     นาที สุดท้ายฟูแล่ม มาได้ฟรีคิกระยะหวังผล ประมาณ 23 หลา ฮูโก้ โรดาเยก้า ปั่นไปที่เสาแรกจะเสียบตาข่ายอยู่แล้ว แต่เรน่า ปัดสุดเหยียดเอาไว้ได้


     จาก นั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 ทีมหงส์แดงก็มาได้ลูกที่ 4 ปิดกล่อง จากจังหวะที่เอ็นริเก้ ลากตัดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตบเลียดมาให้หลุยส์ ซัวเรซ แปด้วยซ้ายง่ายๆ เข้าไปไม่เหลือ จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ถล่มเอาชนะ ฟูแล่ม ไป 4-0


รายชื่อผู้เล่น

        ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า 6, เกล็น จอห์นสัน 7, มาร์ติน สเคอร์เทล 9, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ 7, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 7, ลูคัส เลว่า 7 (เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6 น.83), สตีเว่น เจอร์ราร์ด 8, จอนโจ เชลวี่ย์ 7 (โจ อัลเลน 6 น.74), ซูโซ่ 6 (ราฮีม สเตอร์ลิง 6 น.71), สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 9, หลุยส์ ซัวเรซ 7

        สำรองไม่ได้ใช้: แบร๊ด โจนส์, นูริ ซาฮิน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อันเดร วิสดอม

        ใบเหลือง: เกล็น จอห์นสัน
ข้อมูล:siamsport

วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"ร็อดเจอร์" แย้มเตรียมเสริมทัพช่วงตลาดเปิดนี้แน่นอน


         เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า พวกเขาจะมีการคว้านักเตะเข้ามาเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมนี้ อย่างแน่นอน หลังจากนำทีมเปิดบ้านพ่ายวิลล่า แบบสุดช้ำ แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถคว้าผู้เล่นชั้นยอดเข้ามาร่วมทีมได้หรือไม่


         ร็อด เจอร์ส ต้องพึ่งพา หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย อย่างหนักในการสร้างสรรค์โอกาสและยิงประตูในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ไม่สามารถคว้ากองหน้ารายอื่นเข้ามาเสริมทัพได้เมื่อช่วงซัมเมอร์ ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า ลิเวอร์พูล สนคว้า ดาบิด บีย่า ดาวยิง บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน แต่ล่าสุดกุนซือ "หงส์แดง" ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรียบร้อยแล้ว


         "ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเราจะมีการเสริมทัพและเราจะได้รับการสนับสนุน แต่มันจะขึ้นอยู่กับ 2 อย่าง นั่นคือนักเตะอยู่ในตลาดหรือไม่และเราสามารถคว้าตัวได้หรือเปล่า ผมมองว่ารายชื่อมากมายเป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น เพราะมันจะมีนักเตะชั้นยอดไม่มากนักที่พร้อมย้ายทีมในเดือนมกราคม เนื่องจากสโมสรต้องการเงินจำนวนมาก"


         "แต่ไม่ต้องสงสัย เลยว่าเราต้องการทำประตูให้ได้มากขึ้นและเราก็ต้องการดึงนักเตะที่สามารถ จ่ายและยิงประตู ถ้าเราสามารถทำอย่างนั้นได้ มันก็จะทำให้เราดีขึ้น และเราก็สามารถเสริมทัพได้อีกครั้งเมื่อตลาดเปิดในช่วงซัมเมอร์" ร็อดเจอร์ส กล่าว


         กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ตั้งเป้าเอาไว้สูงโดยหวังว่าจะสามารถนำ ลิเวอร์พูล จบในอันดับที่ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทว่าปัจจุบันพวกเขาอยู่เพียงอันดับ 12 เท่านั้น ก่อนถึงเกมกับ ฟูแล่ม ที่แอนฟิลด์ ในวันเสาร์นี้


         "แน่นอนมันคือภาพรวมและมัน เป็นเรื่องของความสามารถในการคว้าตัว เราจะจ่ายเงินในเดือนมกราคมเพื่อพยายามคว้านักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม ความจริงคือรายชื่อทั้งหมดที่ถูกกล่าวมานั้นพวกเขาจะสามารถย้ายทีมได้หรือ เปล่า? แน่นอนว่าเราจะคว้านักเตะที่เราสามารถทำได้และเราจะพิจารณามันอีกครั้ง"


         "ปัญหา ทั้งหมดของเราจะไม่มีทางแก้ไขได้ในช่วงเปิดตลาดนี้ เพราะเดือนมกราคมไม่มีนักเตะมากนักและไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว แต่เราจะแก้ปัญหาบางอย่างของเรา จากนั้นเราจะกลับมาอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์โดยรู้ว่าเราจะอยู่ในตำแหน่งที่ดี ขึ้นมากกว่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว" ร็อดเจอร์ส กล่าว

ข้อมูล:siamsport

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เชลวี่ย์ นำชัย ซัดดับขุนค้อน 3-2 พาหงส์แดงคว้า 3 แต้ม


การเเข่งขันศึกฟุตบอลพรี เมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012/2013 
ประจำวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2555 ที่สนาม อัพตัน พาร์ค 
                                       เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ลิเวอร์พูล

เริ่มเกมไป 6 นาที เวสต์แฮม เกือบได้ประตูนำไปก่อน เมื่อ โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่ วิ่งมาซัดจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งไปโดน คาร์ลตัน โคล ที่ยืนหันหลังอยู่เปลี่ยนทางเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว


น.11 แต่แล้วกลายเป็นทางทีมเยือนที่มาได้ประตูแทน เมื่อ เกล็น จอห์นสัน รับบอลจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด แล้วเลี้ยงมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามชนิดที่ ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น บินปัดสุดตัวก็เซฟไม่ได้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0

ลิเวอร์พูล โชคร้ายต้องเสีย โฆเซ่ เอ็นริเก้ ออกไป หลังได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ทีมต้องส่ง โจ โคล ลงสนามแทน

น.36 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ กีย์ เดเมล ได้จังหวะซัดจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งไปติดมือ โจ อัลเลน เต็มๆ ผู้ตัดสินไม่รอช้าชี้เป็นลูกโทษทันที และเป็น มาร์ค โนเบิ้ล ที่ซัดเสียบมุมซ้ายของประตูผ่านมือ เปเป้ เรน่า เข้าไป เวสต์แฮม ตีเสมอเป็น 1-1



น.43 เวสต์แฮม มาเป็นฝ่ายขึ้นนำบ้าง เมื่อ แม็ทธิว จาร์วิส ครอสเข้ามาหน้าประตู และเป็นทาง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ตั้งใจเทกตัวขึ้นโหม่งสกัด แต่ผิดเหลี่ยมกลายเป็นโขกเข้าประตูตัวเองชนิดที่ เรน่า หมดโอกาสป้องกัน "ขุนค้อน" พลิกนำ 2-1

จากไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก หมดครึ่งแรก เวสต์แฮม ขึ้นนำ 2-1

กลับในช่วงครึ่ง เวสต์แฮม มีการเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ ลงสนามแทน กีย์ เดเมล

น.67 ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นตีเสมอ จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ริ่ง วิ่งมาซัดด้วยนอกเขตโทษ บอลกำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่ ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น ยังบินปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนามไปแทน ลูคัส เลว่า และต่อมา เวสต์แฮม ต้องมาเสีย โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่ ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องขึ้นเปลหามออกจากสนาม ทำให้ต้องส่ง เจมส์ ทอมกิ้นส์ ลงมาช่วยแดนกลางแทน 


น.76 ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็มาประตู จากจังหวะที่ สเตอร์ริ่ง จ่ายบอลทะลุให้ โจ โคล ที่วิ่งเข้าเขตโทษ ได้โอกาสซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งหนีมือ ยาสเคไลเน่น เข้าไป ตีเสมอให้ทีมเป็น 2-2



น.79 พอตีเสมอได้เหมือนได้ใจ คราวนี้ โจ อัลเลน ลุยมาจากริมเส้นด้านขวาก่อนจะเปิดเรียดมาให้ จอนโจ เชลวี่ย์ เข้าชาร์จ บอลเหมือนจะแฉลบ เจมส์ คอลลินส์ แต่ยังกระดอนลอยข้ามหัว ยาสเคไลเน่น เข้าประตูไป "หงส์แดง" พลิกกลับมาแซงเป็น 3-2

เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคน สุดท้ายถอด แม็ทธิว เทย์เลอร์ ออกส่ง โมดิโบ ไมก้า ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนก็เปลี่ยนด้วยเช่นกันส่ง เซบาสเตียน โคอาเตส ลงไปแทน โจ อัลเลน

ช่วงทดเจ็บท้ายเกมยังเป็นทางทีมเยือนที่ครองเกมกดดันได้ มากกว่า แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้อีก หมดเวลาเป็นทาง ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮม ไป 3-2 พร้อมขยับอันดับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง ได้สำเร็จโดยมี 22 คะแนน

รายชื่อผู้เล่น
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น - กีย์ เดเมล (จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ น.45), เจมส์ คอลลินส์, วินสตัน รีด, โจอี้ โอไบรอัน - โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่ (เจมส์ ทอมกิ้นส์ น.73), มาร์ค โนเบิ้ล - แม็ทธิว เทย์เลอร์ (โมดิโบ ไมก้า น.85), เควิน โนแลน, แม็ทธิว จาร์วิส - คาร์ลตัน โคล
ผู้เล่นสำรอง -สปิเกล ราฟาเอล - จอร์แดน สเปนซ์ - แกรี่ โอนีล - จอร์จ มอนเคอร์

รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล (4-3-3) :เป เป้ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ (โจ โคล น.27) - ลูคัส เลว่า (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.71), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน (เซบาสเตียน โคอาเตส น.86) - สจ๊วร์ต ดาาวนิ่ง, จอนโจ เชลวี่ย์, ราฮีม สเตอร์ริ่ง
ผู้เล่นสำรอง-แบร๊ด โจนส์ - เจมี่ คาร์ราเกอร์ - ซูโซ่ - อุสซาม่า อัสไซดี้

ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต
ข้อมูล : sanook