วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

"ซัวเรซ"ฟอร์มเทพ แฮททริกฮีโร่ นำหงส์แดงสยบนกขมิ้น 3-0


ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ  
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 
นอริช 0      -      3 ลิเวอร์พูล

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด


        เกมนกขมิ้นจิกกับหงส์แดงที่แคร์โรว์ โร้ด นอริชโรเตชั่นทีมห้ารายจากเกมบุกไปแพ้แบล็คเบิร์น 2-0 โดยเฉพาะการดร็อปกัปตันทีมแกรนท์ โฮลท์ลงไปนั่งข้างสนามให้สตีฟ มอริสันลงบู๊แทน


        ด้านลิเวอร์พูลได้กัปตันทีมสตีเว่น เจอร์ราร์ดฟิตกลับมาก่อนเกมชิงชนะเลิศเอฟเอคัพสัปดาห์หน้า และเปลี่ยนผู้เล่นห้ารายเช่นกันจากเกมแพ้เวสต์บรอมวิช 1-0 คารังโดยหนึ่งในนั้นได้แก่เคร็ก เบลลามี่ซึ่งเสียบแทนแอนดี้ แคร์โรลล์ที่ไม่อยู่ในโผ


        เริ่มเกมไปได้แค่ 9 นาที อดัม ดรูรี่แบ็คซ้ายเจ้าบ้านก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนเองจนต้องเดินเข้าอุโมงค์ไป และต้องเล่นสิบคนไปพลางๆก่อน จะส่งรัสเซลล์ มาร์ตินเซ็นเตอร์ฮาล์ฟลงไปแทนในนาทีที่ 12 พร้อมขยับไคล นอห์ตันไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย


        อย่างไรก็ดี เกมยังดำเนินไปแบบเนือยๆ ไม่มีจังหวะที่ชวนให้น่าฮือฮาแม้แต่น้อย แต่นาทีที่ 24 มาร์ตินตัวสำรองของนกขมิ้นก็ทำพลาดง่ายๆเมื่อจ่ายบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ถูกเจอร์ราร์ดฉกไปไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้หลุยส์ ซัวเรซหลุดเข้าซัลโวระยะ 12 หลาเสียบเสาสองพาเร้ด แมชีนบุกมานำ 1-0


        พอมีสกอร์ เกมของลิเวอร์พูลก็เริ่มคึกคักทันตาเห็น และนาทีที่ 27 ซัวเรซก็แผลงฤทธิ์เลื้อยขึ้นทางขวาไปแตะบอลลอดขาเอลเลียตต์ วอร์ดหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาไปจ่ายเข้ากลางให้เจอร์ราร์ดเช็คบิลระยะ 15 หลากระทบกองหลังเจ้าบ้านหลุดกรอบไป


        อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาซัวเรซกระชากบอลขึ้นทางขวาสลัดหนีวอร์ดเจ้าเก่าหลุดเดี่ยวเข้าเขต โทษได้เหมือนเดิม และคราวนี้ตัดสินใจตะบันจาก 15 หลาเสียบเสาสองอย่างเด็ดขาดเพิ่มสกอร์ให้หงส์แดงนำ 2-0


        เกมยังเป็นของอาคันตุกะข้างเดียว และถึงนาทีที่ 42 กองหลังนอริชก็ผ่านบอลสั้นในแดนตัวเองหลายจังหวะจนพลาด ทำให้วอร์ดต้องทำฟาวล์ซัวเรซพร้อมรับใบเหลืองตามระเบียบ


        จากนั้นในช่วงทดเวลาเจ็บ โจนาธาน  ฮาวสันก็ได้ใบเหลืองข้อหาตัดเกมโต้เร็วของเจอร์ราร์ดก่อนที่เสียงนกหวีดสุด ท้ายจะดังขึ้นโดยลิเวอร์พูลนำไปก่อนแบบสบายเกือก 2-0
        ครึ่งหลังนอริชเปลี่ยนเดวิด ฟ็อกซ์ออกให้เจมส์ วอห์นลงไปแทน และเปิดเกมรุกกดดันทีมเยือนทันที และได้เสียวในนาทีที่ 51 จากจังหวะกระหน่ำจากหน้าเขตโทษของเอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ที่ทำเอาโฆเซ่ เรน่าต้องออกแรงปัดทิ้ง

        กระนั้นนาทีต่อมา หงส์แดงก็เกือบสอยตาข่ายได้อีกจากการพาบอลลุยขึ้นฝั่งขวาของสจ๊วร์ต ดาวนิ่งแล้วป้ายเข้าไปหน้าปากประตูให้ซัวเรซวอลเลย์ติดบล็อคไรอัน เบนเน็ตต์  จอนโจ้ เชลวีย์จึงได้โขกซ้ำจากหกหลา แต่บอลชนคาน
        ถัดมาในนาทีที่ 55 ทีมเยือนพลาดการได้ประตูเพิ่มอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อโฆเซ่ เอ็นริเก้ขยับบุกขึ้นทางซ้ายแล้วไหลบอลมาหน้าประตูสวย แต่เชลวีย์ทะยานเข้าฮอสสามหลาโด่งข้ามคานเฉย
        นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกจากการผ่านบอลทางกราบขวาที่มอริสันได้ซัดจากหน้าเขตโทษ ถูกเกล็น จอห์นสันเข้าบล็อคทัน ทำให้บอลเปลี่ยนทิศออกเสาสองไป
        ถัดมาอีกสองนาที อาคันตุกะลุยขึ้นมาทางขวาแล้วดาวนิ่งโยกหนีไรอัน เบนเน็ตต์หลุดเข้าเขตโทษได้ แต่จังหวะตะบันเต็มข้อถูกจอห์น รัดดี้ปัดได้เยี่ยม
        ผ่านมาถึงนาทีที่ 64 ซัวเรซแตะบอลลอดขาเอลเลียตต์ เบนเน็ตต์ได้ แต่กลับเลือกชิพจาก 18 หลาแทนที่จะซัลโวทั้งๆที่ไม่มีใครขวาง บอลจึงลอยไปตกใส่หลังคา
        ให้หลังมาอีกสองนาที วอห์นเข้าบอลช้าใส่เรน่าจึงโดนจดชื่อ และในนาทีที่ 71 ไรอัน เบนเน็ตต์ก็รับใบเหลืองไปอีกเมื่อยกแขนกันไม่ให้ซัวเรซวิ่งเข้าหาบอล
        จวบจนนาทีที่ 76 นกขมิ้นก็น่าจะตีไข่แตกได้จากการวางบอลยาวทางฝั่งขวาของมาร์ติน แต่วอห์นโขกระยะสิบหลาออกเสาไกลไปแค่คืบก่อนที่นอริชจะเปลี่ยนโฮลท์ลงไปแทน มอริสัน
        ในที่สุด นาทีที่ 82 นกขมิ้นก็ตายสนิทเมื่อบุกขึ้นไปแล้วเผด็จศึกไม่ได้ถูกดาเนี่ยล แอ็กเกอร์เตะทิ้งขึ้นมาจากเส้นหลังถึงกลางสนาม แล้วกัปตันวอร์ดเจ้าเก่าเฟอะฟะอีกตามเคย โดนซัวเรซแย่งบอลได้แล้วกองหน้าอุรุกวัยจัดแจงชิพจากเกือบๆ 45 หลาเข้าประตูอย่างแม่นยำทำแฮททริคให้เร้ด แมชีนนำขาด  3-0 และนับเป็นการทำแฮตทริกในเกมนี้ของเจ้าตัวอีกด้วย
        จากนั้นในนาทีที่ 86 ทีมเยือนก็เก็บเจอร์ราร์ดกับซัวเรซออกไปพักให้เดิร์ก เคาท์กับเซบาสเตียน โกอาเตสลงไปแทน ช่วงเวลาที่เหลือเกมบุกของหงส์แดงดูผ่อนลงแต่ก็ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้จบ เกมลิเวอร์พูลจึงกำชัยไปอย่างสวยหรู 3-0


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


        นอริช :
จอห์น รัดดี้, ไคล์ นอห์ตัน, ไรอัน เบนเน็ตต์, เอลเลียตต์ วอร์ด, อดัม ดรูรี่ (รัสเซลล์ มาร์ติน น.12), เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, โจนาธาน ฮาวสัน, เดวิด ฟ็อกซ์ (เจมส์ วอห์น น.76), แบรดลี่ย์ จอห์นสัน, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, สตีฟ มอริสัน (แกรนท์ โฮลท์ น.76)

        สำรองไม่ได้ใช้
: เจด สเตียร์, แอนดรูว์ เซอร์แมน, เวส ฮูลาแฮน, อารอน วิบราแฮม

        ใบเหลือง
: วอร์ด, ฮาวสัน, วอห์น, ไรอัน เบนเน็ตต์


        ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (เซบาสเตียน โคอาเตส น.85), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, จอนโจ เชลวี่ย์, เคร็ก เบลลามี่, หลุยส์ ซัวเรซ (เดิร์ค เค้าท์ น.85)

        สำรองไม่ได้ใช้ :
อเล็กซานเดอร์ โดนี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, มาร์ติน เคลลี่, เจย์ สเปียริง, มักซี่ โรดริเกซ

        ใบเหลือง :
-


        ผู้ตัดสิน
: มาร์ค ฮัลซี่ย์


สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแล่ม  4 - 0
- สโต๊ค ซิตี้ เสมอ อาร์เซน่อล  1 - 1
- ซันเดอร์แลนด์ เสมอ โบลตัน  2 - 2
- สวอนซี ซิตี้ เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน  4 - 4
- เวสต์บรอมวิช เสมอ แอสตัน วิลล่า  0 - 0
- วีแกน ชนะ นิวคาสเซิ่ล  4 - 0
- นอริช ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล  0 - 3

หางาน    งาน       job       ประกาศรับสมัครงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น