วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หงส์แดงบุกเจ๊าเชลซี สุดมันส์ 1-1 จอห์น เทอร์รี่ ส่อพักยาว


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล
(1-0 จอห์น เทอร์รี่ น.20 ,1-1 หลุยส์ ซัวเรซ น.73) 
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ 
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ 

เปิดฉากเริ่มเกมได้ 6 นาที เชลซี เกือบออกนำไปก่อนเมื่อ เอแด็น อาซาร์ จ่ายบอลทะลุมาให้ ออสการ์ หลุดเข้าเขตโทษไปยิง แต่เจ้าตัวกลับซัดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย


นาที 20 ในที่สุดแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮจากลูกเตะมุมฝั่งขวา ฆวน มาต้า โยนเข้ามาให้ จอห์น เทอร์รี่ ที่ไม่มีใครประกบได้เทกตัวโขกโล่งๆ เข้าประตูไป ชนิดที่ แบร๊ด โจนส์ หมดโอกาสป้องกัน เชลซี ขึ้นนำไปก่อน 1-0
นาที 26 "สิงห์" เกือบได้บวกสกอร์เพิ่มเมื่อ อาซาร์ กระชากหนีคู่แข่งจากกลางสนามมาหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่อยู่ทางซ้ายได้ซัดไปติดเซฟ แบร๊ด โจนส์ แต่บอลยังลอยมาเข้าทาง อาซาร์ ที่ยืนโล่งตวัดซ้ำด้วยขวาแต่บอลก็ข้ามคานออกไปนิดเดียว


เกมต้องหยุดลงชั่วคราวเมื่อ เทอร์รี่ โชคร้ายได้รับบาดเจ็บ หลังไปถูกสีข้างของ หลุยส์ ซัวเรซ ล้มทับบริเวณเท้าขวาในจังหวะแย่งบอล สุดท้ายเจ้าตัวเล่นต่อไม่ไหวทำให้ทีมต้องเปลี่ยนตัวเอา แกรี่ เคฮิลล์ ลงมาคุมเกมรับแทน
ช่วงทดเจ็บ 5 นาที เจ้าถิ่นพลาดโอกาสได้ประตูที่สองอีกครั้งเมื่อ มาต้า ได้หลุดเดี่ยวไปถึงเขตโทษโล่งๆ แต่เจ้าตัวดันไปซัดด้วยซ้ายข้ามคานไปแบบไม่ต้องลุ้นทั้งที่ด้านข้างมีเพื่อน ที่รออยู่โล่งๆ แท้ๆ หมดครึ่งแรกเป็นฝั่ง เชลซี ขึ้นนำไปก่อน 1-0
กลับมาเตะกันต่อในช่วงครึ่งหลังได้ไม่นานก็มีใบเหลืองแรกของเกมทันทีเมื่อ โจ อัลเลน ไปเสียบอลให้ ตอร์เรส ก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจกระชากดาวยิง "สิงห์บลูส์" ล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่รอช้าชักใบเหลืองให้เจ้าตัวทันที
จากนั้นอีก 10 นาที เกล็น จอห์นสัน ก็ต้องมาโดนเหลืองไปอีกคน เมื่อไปชักศอกใส่หน้าของ ออสการ์ ในจังหวะขวางเพื่อไม่ให้โดนเลี้ยงผ่าน
เกมต้องหยุดไปอีกครั้งจากจังหวะที่ ตอร์เรส ได้โหม่งจ่อๆ ไปติดเซฟ แบร๊ด โจนส์ แล้วในจังหวะที่ลงพื้นเจ้าตัวไปลื่นแล้วเตะเข้าที่ขาของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จนได้รับบาดเจ็บต้องปฐมพยาบาลชั่วคราว
แต่ "หงส์แดง" ไม่รอช้ารีบเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกส่ง ซูโซ่ ลงสนามโดยถอดเอา นูริ ซาฮิน ออกไป
เจอร์ราร์ด ต้องมาโดนใบเหลืองให้ทีมเป็นคนที่สาม หลังไปเตะใส่ที่เข่าของ ออสการ์ ในจังหวะโดนเจ้าตัวกระดกบอลหนีเพื่อจะเลี้ยงผ่าน


นาที 73 ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จจากลูกเตะมุม ซูโซ่ โยนด้วยซ้ายลอยมาถึงหัว คาร์ราเกอร์ โหม่งตั้งย้อนทางมาให้ ซัวเรส ที่อยู่ทางเสาสองหนีการประกบของ รามิเรส โหม่งจ่อๆ เข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
เชลซี เปลี่ยนตัวคนที่สองถอด ออสการ์ ออกแล้วส่ง วิคเตอร์ โมเซส ลงทำเกมรุกแทน ถัดมาก็เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงสนามแล้วถอดเอา ตอร์เรส ออกไป
นาที 87 เชลซี รอดเสียประตูแบบหวุด เมื่อ โฆเซ่ เอ็นริเก้ จ่ายทะลุแนวรับให้ ซัวเรส หลุดเดี่ยวจวนจะเข้าเขตโทษอยู่แล้ว แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังไวออกมาหน้าเขตโทษแล้วสกัดบอลไว้ได้ด้วยหัวเข่าแบบฉิวเฉียด
ช่วงทดเจ็บท้ายเกม ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูชัย ราฮีม สเตอร์ริ่ง ครองบอลอยู่ในเขตโทษก่อนจะจ่ายให้ ซัวเรส แล้วไหลต่อมาให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ซัดด้วยซ้าย แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังยอดเยี่ยมล้มตัวปัดออกหลังไปได้อย่างรวดเร็ว 

จากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกหมดเวลาเสมอกันไป 1-1 ส่งผลให้ เชลซี ตกไปอยู่อันดับที่ 3 ของตารางมี 24 คะแนน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเป็น 3 คะแนน และตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง 1 คะแนน ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังอยู่อันดับที่ 13 มีแค่ 12 คะแนนเท่านั้น

-----------------------------------------------------------------------
รายชื่อของนักเตะทั้งสองทีมที่ลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่ (แกรี่ เคฮิลล์ น.40), ไรอัน เบอร์ทรานด์ - จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส - ฆวน มาต้า, ออสการ์ (วิคเตอร์ โมเซส น.76), เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส (ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.81)
ผู้เล่นสำรอง รอสส์ เทิร์นบูล - เปาโล แฟร์ไรร่า - โอริออล โรเมอู - มาร์โก มาริน
 -----------------------------------------------------------------------
ลิเวอร์พูล (3-5-2) :แบร๊ด โจนส์ - อังเดร วิสดอม, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ - เกล็น จอห์นสัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, นูริ ซาฮิน (ซูโซ่ น.59), โจ อัลเลน, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ราฮีม สเตอร์ริ่ง - หลุยส์ ซัวเรซ
ผู้เล่นสำรอง ปีเตอร์ กูลาสซี่ - เซบาสเตียน โคอาเตส - โจ โคล - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - อุสซาม่า อัสไซดี้

้อมูล:sanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น