วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ศึกแดงเดือด สุดมันส์ "หงษ์แดง"สอย"ผีแดง"ลงหลุม 1-0+คลิป


ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2556

ลิเวอร์พูล 1-0  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : แอนฟิลด์

         ศึก แดงเดือด  "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านจัดชุดเต็ม ที่ยังไร้ หลุยส์ ซัวเรซ เหมือนเดิม โดยส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ยาโก้ อัสปาส เป็นสามประสานล่าตาข่าย ขณะที่ ทีมเยือน ไร้ชื่อของ เวย์น รูนี่ย์ ในเกมนี้ โดยแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 
 

      
      เริ่ม เกมมา3นาที ฝ่ายเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ได้เฮกันอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เปิดโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด มาที่หน้าประตู ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ โหม่งจังหวะแรกไปที่หน้าประตู บอลมาเข้าทาง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ยืนอยู่ตรงปากประตู โหม่งเช็ดอีกครั้ง ส่งบอลตุงตาข่าย ให้ ลิเวอร์พูล นำ 1-0
        2นาทีต่อมา ปีศาจแดง ได้ตอบโต้บ้าง จากการตีลังกายิงหน้าประตูของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่บอลโด่งข้ามคานออกหลังไป

        นาทีที่12 แฟนเจ้าถิ่นมีเสียว เมื่อ แมนฯยูฯ ได้ลูกเตะมุม เปิดโดย แอชลี่ย์ ยัง บอลหลุดมาถึงเสาสองถึง  ฟาน เพอร์ซี่ แต่ อาร์วีพี ไม่คิดว่าบอลจะหลุดมาถึง เลยชวดยิงน่าเสียดาย

        3นาทีต่อมา แมนฯยูฯ เปิดเกมบุกขึ้นมาบ้าง ก่อน ได้จบสกอร์จาก แดนนี่ เวลเบ็ค แต่ เกล็น จอห์นสัน มาสไลด์บล็อคได้อย่างยอดเยี่ยม

        นาทีที่27 แฟนลิเวอร์พูล ได้ลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกนอกกรอบกลางประตูระยะ25หลา ยิงโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด บอลโค้งข้ามกำแพง แต่ ดาบิด เด เคอา ยังล้มตัวรับไว้ได้อยู่

        นาที ที่34 แมนฯยูฯ ต้องเสียใบเหลืองใบแรก ในจังหวะ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ไปเจตนาเสียบ คูตินโญ่ หลังเห็น คูตินโญ่ เล่นต่อในจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง ฟิล โจนส์ นอนเจ็บ รับใบเหลืองไปแบบไม่มีข้อโต้แย้ง

        3นาทีต่อมา แมนฯยูฯ เปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อ ฟิล โจนส์  เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงมายืนแบ็คขวาแทน

        นาที ที่39 ปีศาจแดง โดนใบเหลืองไปอีก เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คุมตัวเองไม่อยู่ หลังตัวเอง โดน ลูคัส เลว่า เข้าบอลหนักแต่ไม่ฟาวส์ ก่อนไปเอาคืนด้วยการไปเปิดปุ่มใส่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ จึงไม่รอดถูก อันเดร มาร์ริเนอร์ แจกใบเหลืองคุมอารมณ์

        2นาที ต่อมา ไมเคิ่ล คาร์ริค รับใบเหลืองไปอีกคน หลังไปเจตนาดึง ยาโก้ อัสปาส เพื่อไม่ให้ ลิเวอร์พูล โต้กลับ รับใบเหลืองคนที่สามของเกม


        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จึงนำ แมนฯยูไนเต็ด อยู่ 1-0

        เริ่มครึ่งหลังมา5นาที แมนฯยูฯ เดินหน้าบุกต่อ แล้วก็มีโอกาสได้ยิง จากการซัดด้วยเท้าซ้ายนอกกรอบของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่บอลแฉลบ มาร์ติน สเคอร์เทล ออกหลังไป

        นาทีที่58 แฟนลิเวอร์พูล ใจหายวาบ เมื่อ แดนนี่ เวลเบ็ค ชนกับ ยาโก้ อัสปาส ล้มในกรอบเขตโทษของลิเวอร์พูล แต่ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ เฉย ทำให้  เวลเบ็ค  วิ่งมาประท้วงแต่ก็ไร้ผล

        นาทีต่อมา ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ แจกใบเหลืองให้ แมนฯยูฯ อีกใบ ในจังหวะ แอชลี่ย์ ยัง ไปดึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

        เกม ผ่านหนึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวบ้าง โดยส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงมาแทน ยาโก้ อัสปาส ส่วนแมนฯยูฯ ส่ง นานี่ ลงมาแทน แอชลี่ย์ ยัง

        นาทีที่69 แมนฯยูฯ มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เปิดโดย นานี่ ให้ ไรอัน กิ๊กส์ วิ่งมาโฉบโหม่งเสาแรก แม้บอลจะเข้ากรอบ แต่ก็ไม่ยากเกินที่ ซิมง มินโญเลต์ จะรับเข้ามือสบาย

        3นาทีต่อมา แมนฯยูฯ เปลี่ยนตัวอีก โดยส่ง ชิชาริโต้ ลงมาแทน ไรอัน กิ๊กส์

        นาทีที่77 ปีศาจแดง เปิดเกมกดดันเจ้าบ้านอย่างหนัก แล้วก็ได้เสียว เมื่อ นานี่ ได้โอกาสซัดไกลนอกกรอบ บอลพุ่งเข้ากรอบ แม้บอลจะแรง แต่ก็ไม่หนีมือมาก ทำให้ ซิมง มินโญเลต์ ทุบทิ้งได้อย่างหวุดหวิด

 
         นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอีกคน โดยส่ง อังเดร วิสดอม ลงมาแทน เกล็น จอห์นสัน
        นาทีที่82 แมนฯยูฯ ได้โอกาสสับไกยิงอีกครั้ง เมื่อ ชิชาริโต้ กระดกบอลให้ อาร์วีพี แต่ มาร์ติน สเคอร์เทล โหม่งสกัดบอลมาเข้าทาง ชิชาริโต้ กดยิงด้วยขวา แต่บอลตรงตัว มินโญเลต์ รับไว้อีกครั้ง

        นาทีต่อเนื่อง ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง หลุยส์ อัลแบร์โต้ นักเตะใหม่ ลงมาแทน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

        นาทีที่87 แฟนแมนฯยูฯ ได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ ชิชาริโต้ จ่ายบอลตัดแนวรับเจ้าถิ่นให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โฉบมายิงเสาแรกด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

        ก่อนหมดเวลา2นาที ลิเวอร์พูล โดนใบเหลืองบ้าง เมื่อ ลูคัส เลว่า ไปฟาวส์ด้านหลังใส่ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เลยไม่รอดเสียใบเหลืองไป

        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีม ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา ลิเวอร์พูล จึงเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ แมนฯยูฯ ไปอย่างสนุก 1-0





รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
        ลิเวอร์พูล:
ซิมง มินโญเลต์ 7, เกล็น จอห์นสัน 8 (อันเดร วิสดอม 5 น.79), มาร์ติน สเคอร์เทล 6, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ 6, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 7, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 6, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 7, ลูคัส เลว่า 7, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 6 (หลุยส์ อัลเบร์โต้ 5 น.84), แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 6, ยาโก้ อัสปาส 5 (ราฮีม สเตอร์ลิง 6 น.60)

        สำรองไม่ได้ใช้
: แบร๊ด โจนส์, มาร์ติน เคลลี่, จอห์น ฟลานาแกน, จอร์ดอน ไอบี้

        ใบเหลือง
: ยาโก้ อัสปาส, ลูคัส เลว่า


        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา 6, ฟิล โจนส์ 6 (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 5 น.37), ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, เนมานย่า วิดิช 6, ปาทริซ เอวร่า 7, ไมเคิ่ล คาร์ริค 5, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 5, แอชลี่ย์ ยัง 5 (นานี่ 6 น.63), ไรอัน กิ๊กส์ 5 (ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" 6 น.73), แดนนี่ เวลเบ็ค 5, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 6

        สำรองไม่ได้ใช้ : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, คริส สมอลลิ่ง, อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์, อันแดร์สัน

        ใบเหลือง : ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง

        ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์ 
 
ข้อมูล:siamsport

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น