วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2557

"ถล่มทลาย" หงส์แดงจัดให้ ดับคาร์ดิฟฟ์คาถิ่น 6-3


การแข่งขันฟุตบอลพรี เมียร์ ลีก ฤดูกาล 2013/2014 
ประจำคืนวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557 ที่สนาม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม 

คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3 - 6 ลิเวอร์พูล

เริ่มเกมได้ 2 นาที สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็ต้องมารับใบเหลืองไปอย่างรวดเร็ว ฐานเข้าไปเล่นอันตรายใส่ เฟร์เซอร์ แคมป์เบล แบบน่าเกลียด

ผ่าน มาถึงนาทีที่ 9 แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮกันก่อนอย่างรวดเร็ว จากความผิดพลาด โจ อัลเลน จ่ายคืนหลังพลาดถูก เฟร์เซอร์ แคมป์เบล โฉบมาแย่งบอลไปได้ ก่อนจ่ายให้ จอร์แดน มัชท์ ลากตรงหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย บอลกลิ้งเสียบมุมเข้าประตูชนิดที่ ซิมง มินโญเลต์ ได้แต่ยืนขาตายเท่านั้น "คาร์ดิฟฟ์" ขึ้นนำ 1-0


น.16 "หงส์แดง" ก็มาทำประตูคืนจนได้ จากจังหวะที่ ฟิลิปป์ คูตินโญ่ หลอกยิงหน้าเขตโทษ ก่อนจะป้ายมาให้  แล้วแทงให้ เกล็น จอห์นสัน ที่เติมทางขวา แล้วจัดการตบเข้ากลางให้ หลุยส์ ซัวเรซ ชาร์จจ่อๆ เข้าไป ลิเวอร์พูล ตีเสมอสำเร็จ 1-1



แต่กลายเป็น ว่าในนาทีที่ 25 "หงส์แดง" ต้องมาเสียประตูที่สอง เมื่อ จอร์แดน มัชท์ แทงทะลุช่องให้ เฟร์เซอร์ แคมป์เบล ไปรับบอลตรงที่ว่าง ก่อนเจ้าตัวละลากเข้าโทษแล้วซัดด้วยซ้าย บอลเรียดเสียบมุมประตูเข้าไปอย่างเฉียบคม "คาร์ดิฟฟ์" กลับมานำอีกครั้งเป็น 2-1




น.33 ฆวน กาล่า มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของทางฝั่งเจ้าถิ่นแบบไม่จำเป็น หลังเจตนาเตะบอลทิ้งภายหลังจากที่ เควิน แคทเทอรีน ไปทำฟาวล์ใส่ โจ อัลเลน




น.41 ลิเวอร์พูล ไม่ยอมง่ายๆ และมาตามตีเสมอได้อีกครั้ง ฟิลิปป์ คูตินโญ่ ครองบอลทางฝั่งขวา ก่อนบรรจงเปิดยัดเข้ากลางที่ระดับหัวเข่าไปที่หน้าประตู และเป็น มาร์ติน สเคอร์เทล โดดเข้ามาแหย่ขาชาร์จบอลจ่อๆ ผ่าน เดวิด มาร์แชลล์ เข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2

หลังจากนั้นทั้งฝ่ายยังยิงประตูเพิ่มเติมไม่ได้ หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 2-2

กลับ มาในช่วงครึ่งหลังนาทีที่ 50 ฟาบิโอ มาโดนใบเหลือง หลังไปเกี่ยว แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ทางด้านหลังในจังหวะที่เจ้าตัวพยายามลากเข้าเขตโทษ


ผ่าน มาถึงนาทีที่ 54 เป็นทาง "หงส์แดง" มาพลิกขึ้นนำบ้างจากลูกเตะมุม ฟิลิปป์ คูตินโญ่ โยนไปที่เสาแรก บอลเข้าหัว มาร์ติน สเคอร์เทล เทกตัวโขก ลูกลอยไปทางเสาสองเข้าประตูไปได้สำเร็จ ทีมเยือนนำ 3-2




ยิ่งเล่นยิ่ง ได้ใจไปเรื่อยๆ สำหรับทางฝั่ง ลิเวอร์พูล แถมมาได้ประตูอีกในนาทีที่ 60 เกล็น จอห์นสัน เปิดเรียดจากฝั่งขวาไปแฉลบ เควิน แคทเทอรีน แต่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ วิ่งเข้าไปที่บอลแล้วตอกส้นคืนหลังมาให้ หลุยส์ ซัวเรซ วิ่งมากดเน้นๆ เข้าไปไม่มีเหลือ ทีมเยือนนำเพิ่ม 4-2

น.65 "คาร์ดิฟฟ์" แก้เกมด้วยการส่งตัวสำรองทีเดียวสองคนรวดให้ มัทส์ ดาเอลี่ กับ วิลฟรีด ซาฮา ลงสนามแทน ดีแคลน จอห์น และ คิม โบ-ยอง

น.68 ทีมเยือนตัวสำรองบ้าง ส่ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงสนามเป็นคนแรก โดยถอด ฟิลิปป์ คูตินโญ่ ออกไปพัก

น.70 เจ้าถิ่นถอด เคร็ก เบลลามี่ ออกเป็นคนสุดท้าย แล้วส่ง เคนวิน โจนส์ ลงสนามมาลุ้นทำประตูในแดนหน้าแทน

น.75 สกอร์เริ่มไหลไปเรื่อยๆ เป็น 5-2 จากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน แย่งลูกจาก ฟาบิโอ ไปได้ ก่อนเปิดยาวไปทางฝั่งซ้าย สตีเว่น คอลเกอร์ พยายามจะโหม่งสกัดแต่ไม่ดีถูก หลุยส์ ซัวเรซ รับไปได้แล้วลากเข้าเขตโทษก่อนเปิดลอดขา คอลเกอร์ ที่ตามมาป้องกันไปได้ ลูกกลิ้งไปถึงหน้าประตูให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ วิ่งมาชาร์จเข้าไปไม่มีเหลือ



น.88 เจ้าถิ่นยังไม่ยอมง่ายๆ และมาทำประตูได้อีก เควิน แคทเทอรีน โยนไปที่เสาไกล เคนวิน โจนส์ โหม่งตั้งกระดอนพื้นมาให้ จอร์แดน มัชท์ โขกจ่อๆ เข้าไป "คาร์ดิฟฟ์" ไล่ตามมาห่างๆ เป็น 3-5

ช่วงทดเจ็บ "หงส์แดง" ส่ง มามาดู ซาโก้ ลงสนามมาเสริมเกมรับให้แน่นมากขึ้น โดยเอา สเตอร์ริดจ์ ออกไปพัก แถมทีมยังมาประตูที่หก จากจังหวะที่ ซัวเรส ใช้ความแข็งแกร่งเบียด ฆวน กาล่า จนกระเด็น ก่อนลากเข้าเขตโทษดวลเดี่ยวกับ เดวิด มาร์แชลล์ สุดท้ายเจ้าตัวก็ยังซัดบอลเข้าประตูไปแบบเยือกเย็น



สุดท้ายหมดเวลา ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ไปได้ 6-2 จากชัยชนะในเกมนี้ส่งผลให้ "หงส์แดง" ยังรั้งอันดับที่สองของตารางต่อไป โดยมีเพิ่มเป็น 63 คะแนน ตามหลัง เชลซี จ่าฝูงที่เอาชนะ อาร์เซน่อล ไปก่อนเมื่อช่วงหัวค่ำเหลือแค่ 4 คะแนนเท่านั้น



 

รายชื่อผู้เล่น คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (4-1-4-1) :
เด วิด มาร์แชลล์ - เควิน แคทเทอรีน, สตีเว่น คอลเกอร์, ฆวน กาล่า, ดีแคลน จอห์น (มัทส์ ดาเอลี่ น.65) - แกรี่ เมเดล - ฟาบิโอ ดา ซิลวา, คิม โบ-ยอง (วิลฟรีด ซาฮา น.65), จอร์แดน มัชท์, เคร็ก เบลลามี่ (เคนวิน โจนส์ น.70) - เฟร์เซอร์ แคมป์เบล
ผู้เล่นสำรอง
โจ ลูวิส - เบน เทอร์เนอร์ - ปีเตอร์ วิตติงแฮม - อารอน กุนนาร์สสัน

รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล (4-3-1-2) :
ซิ มง มินโญเลต์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, จอห์น ฟลานาแกน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน - ฟิลิปป์ คูตินโญ่ (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.68) - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (มามาดู ซาโก้ น.92), หลุยส์ ซัวเรซ
ผู้เล่นสำรอง
แบรด โจนส์ - อาลี ซิสโซโก้ - ยาโก้ อาสปาส - วิคเตอร์ โมเซส - ลูคัส เลว่า

ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บิค


ข้อมูล:sanook

งานพิเศษ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น