วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หงส์แดงเจ๋งดับสิงโต 2-0 คาบ้าน


ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย 
วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554
เชลซี (พรีเมียร์ลีก) 0     -     2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        เริ่มเกมขึ้นมาแค่ 2 นาทีก็มีเหตุการ์ณที่ทำให้แฟนบอลหงส์แดงต้องเสียวเมื่อ ดาวิด ลุยซ์ พาบอลเข้าไปให้เขตโทษก่อนโดน โกอาเตส สกัดล้มลงไป ทว่า ฟิล ดาวน์ มองว่ากองหลังโปรตุเกส พุ่งล้มเลยแจกใบเหลืองให้ดาวเตะหัวฟูทันที

        เกมผ่าน 20 นาทีเชลซี ต้องมาเสียจุดโทษเมื่อ โฆเซ่ เอ็นริเก้ โยนบอลเข้าไปหน้าประตู อเล็กซ์ ขึ้นเทกตัวโหม่งแย่งกับ แคร์โรลล์ แต่ใช้มือปัดออกหลัง ฟิล ดาวด์ ยังไม่เป่าทันทีแต่หลังจากฟังผู้ช่วยแล้วก็ชี้ให้เป็นจุดโทษและแจกใบเหลือง ให้ อเล็กซ์ อีกด้วย

        ทว่าลิเวอร์พูล กลับไม่ได้ประตูหลังจาก แอนดี้ แคร์โรลล์ ซัดจุดโทษไปติดเซฟของ รอสส์ เทิร์นบูลล์ ที่ปัดทิ้งออกมาได้ เกมยังเสมอกันอยู่

        หลังจากนั้นเกมก็แทบจะไม่มีจังหวะลุ้นประตู จนถึงช่วงทดเจ็บ เชลซี ได้จังหวะสวนกลับเร็ว รามิเรส จ่ายบอลให้ โบซิงวา ทางฝั่งขวาแล้วเปิดมาหน้าประตูให้ ลูกากู โขกแต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกไป และเกมก็จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังถึงนาทีที่ 54 โคอาเตสก็โดนจดชื่อเมื่อทำฟาวล์ใส่ตอร์เรส และจากลูกฟรีคิกทางกราบขวาของเจ้าบ้านที่แฟรงค์ แลมพาร์ดสาดไปเสาไกล มาลูด้าก็โขกย้อยไปชนคานทำให้ลุยซ์เข้าขวิดซ้ำระยะเผาขนที่เสาแรก แต่บอลกระทบลำตัวโคเอเตสที่คุมเส้นประตูอยู่ออกไป

        และแล้วนาทีที่ 58 กองเชียร์สิงห์บลูส์ก็ต้องคกตกอีกตามเคยเมื่อเฮนเดอร์สันแทงบอลจากกลางสนาม ออกทางขวาทะลุช่องให้เบลลามี่ที่ไม่ล้ำหน้าลากไปไหลเข้าหาปากประตูถวายพาน ให้มักซี่เข้าฮอสสบายแฮหกหลาโดยไม่มีใครตามประกบทันเป็นสกอร์นำ 1-0 ของทีมเยือน

        เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 63 หงส์แดงก็มาได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายหลังจากรามิเรซทำฟาวล์เบลลามี่ และเป็นกองหน้าเวลส์ที่โยนโด่งเข้าเสาไกลโดยมีมาร์ติน เคลลี่ขวิดเหน่งๆหกหลาไม่มีใครประกบตุงตาข่ายพาลิเวอร์พูลหนีห่าง 2-0

        เชลซีตัดสินใจเปลี่ยนตัวอีกสองรายสุดท้ายทันทีให้ฆวน มาต้ากับนิโกล่าส์ อเนลก้าลงไปแทนมาลูด้ากับลูกากูหอกจอมทื่อ แต่ขยับมาในนาทีที่ 66 รามิเรซก็โดนจดชื่อข้อหาเสียบลูคัส

        จากนั้นอีกพักเดียว เกมก็หยุดอีกรอบเมื่อลูคัสเจ็บเข่าซ้ายจากจังหวะชนเข้ากับมาต้าโดยไม่ได้ ตั้งใจทั้งคู่ แต่หลังกลับมาเล่นต่อพักเดียวกองกลางบราซิลก็ไม่ไหวให้สัญญาณไปที่ข้างสนาม ขอเปลี่ยนตัวก่อนจะร่วงลงไปต้องหามลงเปลโดยมีชาร์ลี อดัมได้ลงเล่นแทนในนาทีที่ 72

        ล่วงมาอีกสี่นาทีจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของเจ้าบ้าน ตอร์เรสก็ได้โขกแต่เรน่าตะปบบอลเอาไว้ได้

        ช่วงที่เหลือ เชลซีพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น แต่ไม่อาจทำอะไรแนวรับหงส์แดงได้ จบเกมจึงถูกย้ำแค้นตกรอบคารังด้วยความพ่ายแพ้แบบหมดรูป 0-2 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้เป็นผลสำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เชลซี
: รอสส์ เทิร์นบูลล์, โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, ดาวิด ลุยซ์, ไรอัน เบิร์ตรานด์, โอริโอล โรเมอู, โจซัว แม็คเอคราน, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โรเมลู ลูกากู, เฟร์นานโด ตอร์เรส

        สำรอง
: เฮนริเก้ ฮิลาริโอ, เปาโล เฟร์เรยร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, รามิเรส, ฆวน มาต้า, ซาโลมง กาลู, นิโกล่า อเนลก้า

        ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า, มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เซบาสเตียน โกอาเตส, โฆเซ่ เอ็นริเก้, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ, เจย์ สเพียริ่ง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคร็ก เบลลามี่, แอนดี้ แคร์โรลล์

        สำรอง
: อเล็กซานเดอร์ โดนี่, จอห์น ฟลานาแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, ชาร์ลี อดัม, เดิร์ค เค้าท์, หลุยส์ ซัวเรซ

        ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์


สรุปผล ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ อังกฤษ รอบ8ทีม- คาร์ดิฟฟ์ ชนะ แบล็คเบิร์น  2 - 0
- เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล  0 - 2
- อาร์เซน่อล แพ้ แมนฯ ซิตี้  0 - 1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น